สำนักข่าว SANA ของรัฐบาลซีเรีย และ War Media ซึ่งเป็นฝ่ายสื่อมวลชนของกองทัพซีเรียและพันธมิตร รายงานว่า ระบบป้องกันทางอากาศของซีเรีย สามารถสกัดขีปนาวุธที่ถูกยิงโดยมีเป้าหมายที่ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งในเมืองฮอมส์ได้ทั้งหมด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังพ้นเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่า ขีปนาวุธดังกล่าวมีเป้าหมายที่ฐานทัพอากาศเชย์รัตในเมืองออมส์
ระบบป้องกันทางอากาศของซีเรียสามารถสกัดขีปนาวุธเหล่านี้ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังระบุต้นตอของขีปนาวุธไม่ได้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฐานทัพอากาศเดียวกันนี้เคยถูกสหรัฐยิงขีปนาวุธถล่มเมื่อเดือนเม.ย. 2560 โดยสหรัฐได้กล่าวหาว่ากองทัพซีเรียในเมืองอิดลิบมีการใช้อาวุธเคมีในปีเดียวกัน
การโจมตีครั้งล่าสุดนี้มีขึ้น หลังสหรัฐ ฝรั่งเศส และอังกฤษ ได้เปิดฉากดำเนินการทางทหารกับซีเรียในช่วงรุ่งสางของวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยเกิดเสียงระเบิดดังไปทั่วกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย และมีแสงสีแดงพุ่งขึ้นจากพื้นดินไปยังท้องฟ้าซึ่งคาดว่าจะเป็นการตอบสนองของระบบป้องกันทางอากาศต่อการโจมตีของสหรัฐ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้การที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน โดยกลุ่มนักเคลื่อนไหวรายงานว่า กองกำลังของซีเรียได้ใช้ก๊าซคลอรีนโจมตีเมืองดูมา ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฎในเขตกูตาตะวันออก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 ราย
อย่างไรก็ดี รัฐบาลซีเรียได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นการกุข่าวของกลุ่มกบฎและชาติตะวันตก เพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้กำลังทหารต่อซีเรีย
ก่อนหน้าที่จะเกิดการโจมตีจากสหรัฐและชาติพันธมิตร กองทัพซีเรียเปิดเผยว่า เครื่องบินรบรุ่น F-15 ของอิสราเอลได้ก่อเหตุโจมตีฐานทัพอากาศ T-4 ในพื้นที่ตอนกลางของซีเรียเมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ด้วยการยิงขีปนาวุธจากน่านฟ้าของเลบานอน ส่งผลให้มีทหารเสียชีวิต 14 ราย
ขณะเดียวกัน สถานีโทรทัศน์ของซีเรียได้เผยแพร่ภาพนิ่ง พร้อมบรรยายว่าเป็นระบบป้องกันทางอากาศที่กำลังสกัดขีปนาวุธดังกล่าว
สำหรับการโจมตีครั้งล่าสุดนี้ยังไม่มีประเทศใดอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยเจ้าหน้าที่ฝั่งสหรัฐได้เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า รัฐบาลสหรัฐยังไม่มีแผนโจมตีซีเรียรอบใหม่หลังจากที่ได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา