ที่ประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ G7 เห็นพ้องกันที่จะใช้มาตรการกดดันเกาหลีเหนือในระดับสูงสุด เพื่อบังคับให้เกาหลีเหนือยุติโครงการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์อย่างถาวร โดยระบุว่า การที่เกาหลีเหนือประกาศระงับการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานั้น ยังไม่เพียงพอต่อข้อเรียกร้องของประชาคมโลก
แถลงการณ์ร่วมของที่ประชุมกลุ่ม G7 ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ระบุว่า ประเทศสมาชิกไม่ยอมรับการครอบครองอาวุธนิวเคลลียร์ของเกาหลีเหนือ และเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการใช้อาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธและอาวุธอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
แถลงการณ์ระบุว่า "เราขอยืนยันว่าเราจะไม่ยอมรับอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และต้องการบรรลุเป้าหมายที่ให้เกาหลีเหนือยกเลิกการใช้อาวุธทำลายล้างสูงอย่างถาวร ซึ่งรวมถึงอาวุธชีวภาพ อาวุธเคมี ขีปนาวุธ และอาวุธอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำสันติภาพและความมั่นคงกลับคืนสู่คาบสมุทรเกาหลี"
ทั้งนี้ รัฐมนตรีจากกลุ่ม G7 กล่าวว่า ประเทศสมาชิกจะยังคงใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อไปจนกว่าเกาหลีเหนือจะยอมยุติโครงการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งรวมถึงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ระบุให้ประเทศสมาชิกสกัดการขนส่งน้ำมันปิโตรเลียมและถ่านหินผ่านทางเรือให้แก่เกาหลีเหนือ และอนุญาตให้รัฐบาลสามารถเข้าตรวจสอบเรือต้องสงสัยได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของ G7 มีขึ้นหลังจากสำนักข่าว KCNA ของรัฐบาลเกาหลีเหนือรายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือว่า เกาหลีเหนือได้ตัดสินใจระงับการทดสอบนิวเคลียร์ และขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) รวมทั้งปิดฐานทดสอบนิวเคลียร์ในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือจะพบปะกับนายมูน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในวันศุกร์นี้ และจากนั้นจะพบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนพ.ค. หรือต้นเดือนมิ.ย.