นายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอังกฤษได้ผลักดันให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เลี่ยงการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในช่วงเวลาที่เปราะบางเช่นนี้ ซึ่งการถอนตัวจากข้อตกลงอาจจะเป็นความผิดพลาดก็เป็นได้
ทั้งนี้ รมว.ต่างประเทศอังกฤษอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐ โดยมีเป้าหมายที่จะเกลี้ยกล่อมผู้นำสหรัฐให้ยังคงเป็นส่วนหนึ่งในข้อตกลงดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านออกโรงเตือนสหรัฐว่า การฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์จะนำความเสื่อมเสียมาสู่สหรัฐ
นายอเลดดิน โบโรเจอร์ดี ประธานคณะกรรมการนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติของรัฐสภาอิหร่าน กล่าวเมื่อวานนี้ว่า "การฉีกหรือขู่ว่าจะฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์ (JCPOA) เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของสหรัฐ และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสหรัฐเป็นประเทศที่เชื่อถือไม่ได้ในเวทีโลก
ทั่วโลกต่างจับตาท่าทีของทรัมป์ ซึ่งมีเวลาจนถึงวันที่ 12 พ.ค.นี้ว่า จะตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ชาติมหาอำนาจทำไว้กับอิหร่านหรือไม่ โดยข้อตกลงฉบับนี้เกิดจากลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่านและกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ P5+1 ผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในขณะที่อิหร่านจะต้องระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ปีที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ประกาศไม่ให้การรับรองอิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยระบุว่าอิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว และมีการละเมิดหลายครั้ง