สหภาพยุโรป (EU) เผยว่าทางกลุ่มไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศการตัดสินใจอย่างไรเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน แต่แย้มว่า EU กำลังเตรียมวางแผนการต่างๆ เพื่อปกป้องบริษัทยุโรปที่อาจได้รับผลกระทบ หากสหรัฐประกาศถอนตัวจากข้อตกลงและกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านอีกครั้ง
มายา โคซียานซิค โฆษกหญิงฝ่ายกิจการต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงบรัสเซลส์ว่า "เราไม่รู้ว่าคุณทรัมป์จะประกาศว่าอะไร" พร้อมทั้งกล่าวต่อไปว่า "เรากำลังจัดเตรียมแผนการต่างๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทยุโรป แต่ ณ ตอนนี้ ดิฉันไม่อยู่ในจุดที่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้"
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์เปิดเผยผ่านข้อความทางทวิตเตอร์วานนี้ว่า เขาจะประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อตกลงอิหร่านในวันอังคารที่ 8 พ.ค. เวลา 14.00 น.ตามเวลาสหรัฐ
สำหรับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านนั้น เกิดจากลงนามในปี 2558 ระหว่างอิหร่าน และกลุ่มประเทศ P5+1 ได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ P5+1 ผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ในขณะที่อิหร่านจะต้องระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์
แต่เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ปีที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ประกาศไม่ให้การรับรองต่ออิหร่านในการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์ที่มีการทำไว้ในปี 2558 โดยระบุว่า อิหร่านไม่ได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว และมีการละเมิดหลายครั้ง
โดยหากปธน.ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ก็จะเป็นการเปิดทางให้สหรัฐทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ได้
"ข้อตกลงนี้มีความสำคัญมากสำหรับความมั่นคงของโลก" โฆษกกล่าว พร้อมกับเน้นย้ำว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Joint Comprehensive Plan of Action (JCPOA) มีการตรวจสอบและข้อกำหนดที่เข้มงวด
"JCPOA ไม่ได้ตั้งอยู่บนสมมติฐานของความเชื่อหรือศรัทธา แต่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง พันธสัญญาที่เป็นรูปธรรม กลไกการตรวจสอบ และการเฝ้าสังเกตการณ์ที่เข้มงวดมาก"
หากสหรัฐปฏิเสธที่จะผ่อนปรนการคว่ำบาตรอิหร่านต่อไปภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ ก็อาจนำไปสู่ความสับสนวุ่นวายสำหรับบริษัทระหว่างประเทศที่ทำธุรกิจอยู่ในภูมิภาค อย่างไรก็ดี EU ปฏิเสธที่จะชี้ชัดเกี่ยวกับมาตรการที่ทางกลุ่มกำลังเตรียมการเพื่อช่วยบริษัทยุโรป หากทรัมป์ตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลง