นายทาโร่ โคโนะ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นเรียกร้องให้ทุกฝ่ายกลับมาอยู่ในความสงบ หลังจากที่การเปิดสถานทูตของสหรัฐในเมืองเยรูซาเล็ม และจุดชนวนให้เกิดการประท้วงที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า "นับเป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง และเราหวังว่าทุกประเทศที่เกี่ยวข้องจะจัดการกับสถานการณ์นี้ได้โดยสงบ"
นายโคโนะกล่าวว่า "เราไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปเข้าร่วมพิธีเปิด และรัฐบาลญี่ปุ่นก็ไม่มีความความคิดว่าจะย้ายสถานทูตไปยังเยรูซาเล็ม"
เหตุชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีประชาชนในพื้นที่เสียชีวิตอย่างน้อย 58 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 2,700 ราย
การเปิดสถานทูตในเยรูซาเล็มครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลสหรัฐ หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยอมรับเมืองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล และให้ย้ายสถานทูตของสหรัฐจากเมืองเทลอาวีฟไปยังเยรูซาเล็ม ซึ่งถือเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวคริสต์ ยิว และมุสลิม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นได้พยายามสนับสนุนกระบวนการเพื่อสันติภาพในตะวันออกกลางมาโดยตลอด และเป็นผู้นำโครงการพัฒนา "ระเบียงแห่งสันติภาพและความมั่งคั่ง" ที่มีทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์เข้าร่วมด้วย