ญี่ปุ่นได้อนุมัตินโยบายทางทะเลฉบับใหม่ ซึ่งมุ่งเน้นด้านความมั่นคงทางทะเล เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นจากเกาหลีเหนือและจีน ซึ่งนโยบายฉบับนี้สวนทางกับนโยบายฉบับเดิมที่ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาแหล่งทรัพยากรทางทะเลเป็นส่วนใหญ่
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นโยบายทางทะเลฉบับนี้อ้างถึงภัยคุกคามจากการยิงขีปอาวุธของเกาหลีเหนือ และการลาดตระเวนจากเรือดำน้ำของจีนรอบหมู่เกาะเซนกากุซึ่งจีนได้อ้างกรรมสิทธิ์ ในบริเวณทะเลจีนตะวันออก
นายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะ ของญี่ปุ่น กล่าวในการประชุมของรัฐมนตรีว่าด้วยเรื่องนโยบางทางทะเลว่า "ท่ามกลางสถานการณ์ทางทะเลที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ รัฐบาลจำต้องออกมาปกป้องน่านน้ำในอาณาเขตของตน และผลประโยชน์ทางทะเลของญี่ปุ่น"
เนื้อหาของนโยบายทางทะเลฉบับนี้ สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการพัฒนาทางทหารของรัฐบาล ซึ่งจะมีการทบทวนใหม่ในเดือนธ.ค นโยบายทางทะเลฉบับแรกได้ถูกนำมาใช้เมื่อปี 2551 และกำหนดให้มีการทบทวนทุกๆ 5 ปี
นโยบายฉบับนี้ ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ความมั่นคงทางทะเล ซึ่งญี่ปุนมีแนวโน้มว่าจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก หากไม่มีการกำหนดมาตรการใดๆ
ในการเสริมกำลังของหน่วยข่าวกรองของญี่ปุ่น รัฐบาลยังวางแผนที่จะใช้เครื่องบินและเรือของกองกำลังป้องกันตัวเองและหน่วยกู้ภัยทางทะเลของญี่ปุ่น พร้อมกับใช้ดาวเทียมไฮเทคจากองค์การสำรวจอวกาศแห่งญี่ปุ่น และเครื่องมือเรดาห์ตามชายฝั่ง