สรุปสาระสำคัญการประชุมซัมมิต "ทรัมป์-อาเบะ" ที่กรุงวอชิงตัน ก่อนการประชุม G7 เปิดฉาก

ข่าวการเมือง Friday June 8, 2018 10:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ได้พบปะหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ ที่กรุงวอชิงตัน ก่อนหที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศแคนาดา เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หรือ G7

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สาระสำคัญของการหารือระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศในครั้งนี้ มีดังนี้

-- ผู้นำสหรัฐและญี่ปุ่นเห็นพ้องให้คงมาตรการคว่ำบาตรเพื่อกดดันเกาหลีเหนือต่อไป จนกว่าการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลีจะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมยืนยันความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกันในการแก้ไขปัญหาโครงการพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ รวมถึงประเด็นการลักพาตัวพลเรือนญี่ปุ่นในอดีต นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐและผู้นำญี่ปุ่นยังเห็นพ้องให้จัดการเจรจาด้านการค้าและการลงทุนระดับทวิภาคีรอบแรกขึ้นใหม่ในเดือนกรกฎาคมด้วย

-- ปธน.ทรัมป์ให้คำมั่นว่า ในระหว่างการประชุมสุดยอดร่วมกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งจะมีขึ้นที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ เขาจะผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาการลักพาตัวพลเรือนชาวญี่ปุ่นโดยเกาหลีเหนือ

-- ปธน.ทรัมป์ได้ยังแสดงความพร้อมที่จะเชิญนายคิม จอง อึนให้เดินทางเยือนสหรัฐ หากการประชุมสุดยอดสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และต้องการที่จะเห็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือให้กับเข้าสู่สภาวะปกติในอนาคต พร้อมกล่าวเสริมว่า ตนอาจจะลงนามในข้อตกลงเพื่อยุติสงครามเกาหลีกับนายคิมในการประชุมครั้งนี้

-- ปธน.ทรัมป์ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการที่จะทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับญี่ปุ่นเพื่อลดการขาดดุลทางการค้าระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นลง พร้อมกล่าวว่า"เรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อลดการขาดดุลทางการค้าและกำจัดอุปสรรคในการส่งออกของสหรัฐ เพื่อบรรลุความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอย่างเป็นธรรมและได้รับประโยชน์ร่วมกัน" ปธน.สหรัฐกล่าว และอ้างถ้อยแถลงของนายอาเบะที่บอกกับตนว่า ญี่ปุ่นจะซื้อผลิตภัณฑ์สหรัฐในมูลค่ามหาศาล ไล่ตั้งแต่เครื่องบินรบ อากาศยานพลเรือนไปจนถึงสินค้าเกษตร

-- อาเบะแสดงความพร้อมที่จะจัดการประชุมสุดยอดกับผู้นำเกาหลีเหนือ พร้อมเรียกร้องให้นายคิม จอง อึน ดำเนินมาตรการที่น่าเชื่อถือต่อประเด็นการลักพาตัวพลเรือนญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นกำลังเตรียมฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ตลอดจนขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือ ตามปฏิญญาทวิภาคี ในปี 2545


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ