กลุ่มผู้นำพรรครีพับริกันในสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ ถูกสถานการณ์บังคับให้เลื่อนการลงคะแนนโหวตร่างกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองเป็นครั้งที่สอง โดยร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นฉบับที่ "ไม่รุนแรง" ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการที่รัฐบาลสหรัฐได้บังคับแยกครอบครัวที่เข้าดินแดนสหรัฐโดยผิดกฎหมาย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ประสบความล้มเหลวในการโหวตร่างกฎหมายคนเข้าเมืองฉบับ "ไม่ยินยอมอย่างสิ้นเชิง" ด้วยคะแนนสนับสนุน 193 เสียง และคัดค้าน 231 เสียง นายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เปิดเผยว่า การลงคะแนนโหวตร่างกฎหมายคนเข้าเมืองฉบับ "ไม่รุนแรง" ครั้งที่สองจะเลื่อนออกไปเป็นวันนี้
อย่างไรก็ดี หลังจากที่สมาชิกพรรครีพับริกันได้ประชุมเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ นายไรอันก็ได้ออกมาประกาศเลื่อนการโหวตออกไปเป็นสัปดาห์หน้า โดยหวังที่จะให้เวลาสมาชิกพรรครีพับริกันในการแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อเรียกคะแนนสนับสนุนให้ได้ 218 เสียงเพื่อผ่านร่างกฎหมายนี้
ร่างกฎหมายฉบับ "ไม่รุนแรง" หรือ "ประนีประนอม" ดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลสหรัฐจะยุติการจับแยกครอบครัวผู้อพยพ พร้อมจัดสรรงบประมาณ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในการสร้างกำแพงตามแนวชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก และอนุญาตให้ "นักล่าฝัน" หรือผู้ที่อยู่ในโครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ (DACA) สามารถสมัครขอรับสัญชาติสหรัฐได้เป็นจำนวนสูงสุด 1.8 ล้านคน