นายเรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ได้ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากผลการนับคะแนนเบื้องต้นระบุว่า เขาได้รับคะแนน 52.5% ขณะที่คู่แข่งอย่างนายมูฮาร์เรม อินซ์ จากพรรครีพับลิกัน พีเพิลส์ ปาร์ตี้ (CHP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้คะแนน 30.7%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายเออร์โดกัน วัย 64 ปี ซึ่งครองอำนาจในฐานะผู้นำตุรกีตั้งแต่ปี 2546 กล่าวว่า พรรคพีเพิลส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นพรรคพันธมิตรที่ร่วมกันระหว่างพรรคจัสติก แอนด์ ดิเวลเลอปเมนท์ (AKP) ของเขา และพรรคเนชันแนลลิสต์ มูฟเมนท์ ปาร์ตี้ ได้ครองเสียงข้างมากในรัฐสภาซึ่งมีที่นั่งรวม 600 ที่นั่ง
นายเออร์โดกันได้แถลงที่บ้านพักในเมืองอิสตันบูล โดยให้คำมั่นว่าจะนำตุรกีเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการมีระบอบประชาธิปไตยและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ภายใต้ระบบการบริหารแบบใหม่ พร้อมกล่าวว่า เขาได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเนื่องจากการทุ่มเททำงานและปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดีในฐานะประธานาธิบดี
การเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาของตุรกีในครั้งนี้ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในระบบการเมืองของประเทศในรอบกว่าครึ่งศตวรรษ เนื่องจากตุรกีจะเปลี่ยนไปใช้ระบบการบริหารผ่านประธานาธิบดี (executive presidency) แทนรัฐสภา ภายหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ หลังจากเมื่อเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ชาวตุรกีได้ลงประชามติสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้มีการยกเลิกระบบรัฐสภา และเพิ่มอำนาจให้กับประธานาธิบดี ซึ่งการเปลี่ยนแปลงต่างๆนั้น รวมไปถึงการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและสมาชิกรัฐสภาพร้อมกัน