ชาวสหรัฐหลายพันคนได้ออกมารวมตัวกันที่นครนิวยอร์กเมื่อวานนี้ เพื่อประท้วงนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ออกคำสั่งให้มีการแยกขังผู้ปกครองและเด็กที่ลักลอบเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายตามแนวชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก
ภายใต้สภาพอากาศที่ร้อนระอุ กลุ่มผู้ประท้วงได้ออกมาปรบมือและตะโกนโห่ร้องสโลแกนต่างๆ เพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยต่อนโยบาย "ความอดทนเป็นศูนย์" (zero tolerance) ของปธน.ทรัมป์ ซึ่งสั่งให้ทางการดำเนินคดีกับผู้ที่หลบหนีเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย ซึ่งมีการแยกเด็กกว่า 2,000 คนออกจากพ่อแม่
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประท้วงยังระบุอีกด้วยว่า แม้ปธน.ทรัมป์จะลงนามในคำสั่งพิเศษเพื่อยุตินโยบายดังกล่าวแล้ว แต่ทางการก็ยังไม่ได้ส่งตัวเด็กๆอีกหลายคนกลับสู่อ้อมอกของพ่อแม่
ซินดี้ สมิธ หนึ่งในผู้ประท้วงที่เดินทางมาจากรัฐฟลอริดาร่วมกับลูกๆของเธอ เปิดเผยความรู้สึกกับสำนักข่าวซินหัวว่า นโยบายดังกล่าว "ผิดกฎหมายและไร้ซึ่งมนุษยธรรม" ขณะที่ผู้ประท้วงบางรายได้ถือป้ายที่มีข้อความว่า "เด็กๆควรได้อยู่ในโรงเรียนหรือสนามเด็กเล่น ไม่ใช่กรงขัง" และ "ครอบครัวควรอยู่ด้วยกันอย่างอิสระ"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประท้วงครั้งนี้จัดขึ้นโดยมีกลุ่ม "Families Belong Together" เป็นแกนนำ โดยการเดินขบวนประท้วงได้เริ่มต้นขึ้นที่จัสตุรัสโฟลีย์ของนิวยอร์กในช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่กลุ่มผู้ประท้วงจะเดินข้ามสะพานบรูกลินไปยังแคดแมน พลาซา