ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ออกมาเปิดเผยว่า แผนซอฟต์ เบร็กซิต (Soft Brexit ของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีแนวโน้มที่จะทำลายข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ พร้อมระบุว่า หากอังกฤษยังดึงดันที่จะใช้แผนดังกล่าวต่อไป สหรัฐจะหันไปทำข้อตกลงกับสหภาพยุโรปแทน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังนางเมย์ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับปธน.ทรัมป์ที่พระราชวังเบลนไฮม์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดของนายวินสตัน เชอร์ชิล อดีตนายกรัฐมนตรีและรัฐบุรุษของอังกฤษ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังมีกำหนดเดินทางไปร่วมดื่มชากับสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษที่พระราชวังวินเซอร์อีกด้วย
ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศคาดการณ์กันว่า นางเมย์ต้องการที่จะสร้างความประทับใจให้ปธน.ทรัมป์ในระหว่างทริปการเดินทางเยือนอังกฤษในครั้งนี้ เพื่อเป็นการผลักดันให้สหรัฐยอมบรรลุข้อตกลงทางการค้าหลังจากที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในปีหน้า โดยความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลนางเมย์
อย่างไรก็ตาม ปธน.ทรัมป์เคยได้ออกมากล่าวโจมตีแผน Brexit ของนางเมย์ โดยกล่าวว่าอังกฤษอยู่ในช่วงของความยุ่งเหยิง และการเข้าร่วมประชุมกับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียในสัปดาห์หน้า อาจจะเป็นเรื่องง่ายกว่าการพบปะกับนางเมย์
สถานการณ์การเมือง และอนาคตหลัง Brexit ของอังกฤษกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน หลังจากนายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit และนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศ ประกาศลาออก ท่ามกลางความแตกแยกของคณะรัฐมนตรีอังกฤษในประเด็นการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) โดยนายเดวิสกล่าวว่า เขาไม่สามารถสนับสนุนแผนการของนางเมย์ในการดำรงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ EU ต่อไป หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกมา พร้อมระบุว่า นางเมย์ยอมอ่อนข้อต่อ EU มากเกินไป และง่ายเกินไป
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีอังกฤษเห็นชอบต่อแผนการนำอังกฤษออกจาก EU อย่างราบรื่น หรือ ซอฟต์ เบร็กซิต (Soft Brexit) ของนายกฯเมย์ ซึ่งรวมถึงการให้อังกฤษยังคงอยู่ใน "สถานะที่มีส่วนร่วม (collective position)" สำหรับการเจรจากับ EU ในอนาคต และการจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างอังกฤษ และ EU อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการประชุมดังกล่าว รัฐมนตรีที่สนับสนุนความคิดการแยกตัวออกจาก EU อย่างแข็งกร้าว หรือ ฮาร์ด เบร็กซิต (Hard Brexit) ได้ขู่ว่าจะลาออกหากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อแผนการดังกล่าวของนายฯเมย์