ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้สั่งการให้นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) พิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสู่ระดับ 25% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ แผนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% นั้น สูงกว่าแผนการที่สหรัฐเคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมาว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 10% ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ตั้งแต่สินค้าเพื่อผู้บริโภคไปจนถึงสินค้าด้านการเกษตร หลังจากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้า โดยมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมในครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ย.
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายไลท์ไฮเซอร์ได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า "เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้สั่งการให้ผมพิจารณาเรื่องการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตรา 10% คิดเป็นวงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้จีนที่ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐ ซึ่งสร้างผลกระทบต่อแรงงาน เกษตร และภาคธุรกิจของสหรัฐ"
"ส่วนในสัปดาห์นี้ ปธน.ทรัมป์ได้สั่งการว่า ให้ผมพิจารณาการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน จากอัตรา 10% เป็น 25% โดยอัตราภาษี 25% นั้น จะบังคับใช้กับรายการสินค้านำเข้าของจีนซึ่งรัฐบาลสหรัฐได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา" นายไลท์ไฮเซอร์กล่าว