นายมาร์แชล บิลลิงสลี ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และคณะกำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อโน้มน้าวให้รัฐบาลในภูมิภาคสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐ
"เราจะเรียกร้องให้พวกเขาให้ความสำคัญกับมาตรการคว่ำบาตร" นายบิลลิงสลีกล่าวที่สิงคโปร์
นายบิลลิงสลีได้เดินทางเยือนอินโดนีเซียและมาเลเซียแล้ว และมีกำหนดเดินทางเยือนไทย และฟิลิปปินส์
"เราไม่ได้บงการว่าประเทศไหนต้องทำหรือไม่ต้องทำอะไร แต่เรากำลังชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า บริษัทต่างๆจำเป็นต้องทำการตัดสินใจทางธุรกิจ เพราะถ้าพวกเขาเลือกที่จะทำธุรกิจกับอิหร่าน ก็หมายความว่าพวกเขาจะไม่ทำธุรกิจกับสหรัฐ หรือระบบการเงินของสหรัฐ และเราหวังว่าจะได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนสำหรับสิ่งที่เรากำลังดำเนินการอยู่" เขากล่าว
นายบิลลิงสลีเป็นผู้นำคณะเจ้าหน้าที่จากสหรัฐในการเจรจา ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ
ต่อกรณีที่สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้ให้สัตยาบันรับรองสมาชิกภาพของอิหร่านในพิธีสารภาคยานุวัติสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (TAC) ในวันที่ 2 ส.ค. โดยมีการลงนามในพิธีสารดังกล่าวนอกรอบการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนครั้งที่ 51 ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ และบ่งชี้ถึงความใกล้ชิดของอิหร่านกับอาเซียนนั้น นายบิลลิงสลีกล่าวว่า อาเซียนจะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการคบกับอิหร่าน
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวระบุว่า นายบิลลิงสลีเรียกร้องให้สิงคโปร์ระงับการทำธุรกรรมด้านน้ำมันกับอิหร่าน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดความร่วมมือเอเชียที่จะจัดขึ้นที่อิหร่านในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสกัดกั้นรัฐบาลอิหร่านในการเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ, การทำธุรกรรมในสกุลริอัลในบัญชีธนาคารระหว่างประเทศ หรือในการออกพันธบัตร, การทำธุรกรรมซื้อขายทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ รวมถึงถ่านหิน อลูมินัม และเหล็กสำหรับการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และการผลิตรถยนต์ ซึ่งมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าวได้ถูกยกเลิกไปก่อนหน้านี้ หลังจากที่อิหร่านบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับมหาอำนาจทั้ง 6 ชาติในปี 2558 เพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกโครงการนิวเคลียร์
มาตรการที่สหรัฐใช้คว่ำบาตรอิหร่านในครั้งนี้ ถือเป็นมาตรการรอบแรก ก่อนที่สหรัฐจะออกมาตรการคว่ำบาตรรอบ 2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งจะพุ่งเป้าไปยังการทำธุรกรรมของธนาคารกลาง การส่งออกน้ำมัน และการขนส่งสินค้าทางเรือของอิหร่าน