ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐจะไม่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรสินค้าประเภทเหล็กและอลูมิเนียมแก่ตุรกี แม้ว่า จะมีการปล่อยตัวบาทหลวงแอนดริว บรุนสัน แล้วก็ตาม
นางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ย่อว่า "การเรียกเก็บภาษีเหล็กจะไม่ถูกยกเลิกหลังจากที่บาทหลวงบรุนสันได้รับการปล่อยตัว การเรียกเก็บภาษีมีความจำเป็นในเรื่องของความมั่นคงของชาติ"
"ท่านประธานาธิบดีมีความชัดเจนเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล็กและอลูมิเนียม โดยเฉพาะในกรณีของเหล็กที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ต้องได้รับการปกป้อง เราจะต้องสามารถผลิตผลิตภัณฑ์เหล่านั้นในสหรัฐได้ในระดับหนึ่งภายใต้จุดประสงค์ของความมั่นคงของประเทศ"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ตุรกีได้ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐ
ในกรณีดังกล่าว นางแซนเดอร์สเปิดเผยว่า "การเก็บภาษีของทางตุรกีเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและถือเป็นทางเลือกที่ผิด" พร้อมกล่าวด้วยว่า "แน่นอนว่าเราไม่สนับสนุนการตัดสินใจของตุรกีที่ต้องการเอาคืนสหรัฐ ซึ่งกำลังรักษาผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติ"
โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า "การเรียกเก็บภาษีของสหรัฐเป็นเรื่องของความมั่นคงแห่งชาติ แต่การเรียกเก็บภาษีของตุรกีกลับเป็นเรื่องของการเอาคืน" ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเปิดเผยว่า สหรัฐจะดำเนินการตอบโต้แถลงการณ์จากตุรกีเช่นไรต่อไป
สำหรับกรณีของบาทหลวงแอนดรูว์ บรุนสัน นางแซนเดอร์สกล่าวว่า "เรารู้สึกได้ว่าตุรกี โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านประธานาธิบดีเออร์โดกันได้กระทำต่อบาทหลวงอย่างไร้ความยุติธรรมและแย่มาก"
พร้อมกล่าวอีกว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลสหรัฐจะไม่ลืม"
ส่วนเรื่องเศรษฐกิจและสกุลเงินของตุรกีนั้น นางแซนเดอร์สเปิดเผยว่า "เราจะติดตามสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของตุรกีและการอ่อนค่าของสกุลเงินลีรา แต่ปัญหาด้านเศรษฐกิจของตุรกีซึ่งล้วนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาระยะยาวในประเทศ เป็นเรื่องที่ตุรกีก่อขึ้นเอง และไม่ใช่ผลของการกระทำใดๆ ของสหรัฐ"