กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐประกาศเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐได้ระงับการออกวีซ่าเพิ่มเติมแก่กัมพูชา หลังจากที่กัมพูชาได้ประกาศยืนยันผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 29 ก.ค.
เฮเธอร์ นอเอิร์ต โฆษกกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ฝั่งสหรัฐมองว่าการเลือกตั้งดังกล่าว "มีจุดบกพร่อง ไม่เสรีและไม่ยุติธรรม" ทางกระทรวงจึง "เดินหน้าระงับออกวีซ่าเพิ่มเติมจากที่เคยเริ่มไว้เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 ต่อบุคคลที่มีส่วนบั่นทอนประชาธิปไตยในกัมพูชา"
โฆษกกล่าวว่า "คำสั่งระงับการออกวีซ่าเพิ่มเติมนั้นอาจครอบคลุมบุคคลทั้งในและนอกรัฐบาลกัมพูชา" ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการ "ต่อต้านประชาธิปไตย" ในช่วงใกล้ๆการเลือกตั้ง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังคณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งกัมพูชาประกาศว่า พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กวาดที่นั่งทั้งหมดจำนวน 125 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งทั่วไปที่เพิ่งผ่านมา ซึ่งเปิดทางให้สมเด็จฮุน เซน ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศไปอีก 5 ปี
ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับกัมพูชาได้ตกอยู่ในช่วงขุ่นเคืองนับตั้งแต่เมื่อปีที่ผ่านมา หลังรัฐบาลสหรัฐได้ประกาศระงับการออกวีซ่าบางประเภทต่อกัมพูชา ฐาน "บั่นทอนประชาธิปไตย"
ด้านกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาได้แสดงความไม่พอใจต่อการระงับวีซ่าดังกล่าว หลังสหรัฐได้เริ่มใช้คำสั่งระงับเมื่อเดือนธ.ค. 2560 โดยกล่าวว่า "คำสั่งดังกล่าวมีแรงจูงใจทางการเมืองในลักษณะที่ทั้งลำเอียงและสองมาตรฐาน"