ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนออสเตรเลียพบว่า คะแนนสนับสนุนรัฐบาลออสเตรเลียลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่นายสก็อตต์ มอร์ริสัน คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้วหัวหน้าพรรคลิเบอรัลเหนือนายมัลคอล์ม เทิร์นบูล และก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน
ผลสำรวจนิวส์โพลล์ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ดิ ออสเตรเลีย ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลลิเบอรัล-เนชันแนล มีคะแนนนิยมตามหลังพรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายค้านหลักของออสเตรเลียถึง 12% โดยอยู่ที่ 44 ต่อ 56% เมื่อเทียบกับผลการสำรวจเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีคะแนนห่างกันเพียง 2% สร้างความวิตกกังวลให้กับนายมอร์ริสัน เนื่องจากนายบิล ชอร์ทเทน หัวหน้าพรรคเลเบอร์ ซึ่งเดิมไม่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ลงคะแนน กลับได้รับการเสนอให้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2558
ทั้งนี้ การสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่นายเทิร์นบูลพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคลิเบอรัล ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียครั้งที่ 6 ในระยะเวลา 11 ปี โดยนายกรัฐมนตรีมอร์ริสัน วัย 50 ปีเพิ่งจะเปิดเผยรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เมื่อวานนี้ เพื่อประสานความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของรัฐบาลออสเตรเลีย ก่อนหน้าที่การเลือกตั้งทั่วไปจะเปิดฉากขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
ผู้นำออสเตรเลียแต่งตั้งนาง "มาริส เพย์น" ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ แทนนางจูลี บิชอป ที่ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง และนายคริสโตเฟอร์ ไพน์ ดำรงตำแหน่งกระทรวงกลาโหม ส่วนนายมาเธียส คอร์แมน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลังต่อไปตามเดิม ขณะที่นายปีเตอร์ ดัตตัน กลับเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย