กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานประจำปีในวันนี้ว่า โครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ยังคงเป็นภัยคุกคามร้ายแรงสำหรับญี่ปุ่น แม้ผู้นำเกาหลีเหนือและสหรัฐอเมริกาได้จัดการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ไปเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
รายงานดังกล่าวระบุว่า เกาหลีเหนือยังคงครอบครองขีปนาวุธหลายร้อยลูก รวมถึงขีปนาวุธพิสัยกลางที่ยิงได้ไกลถึงญี่ปุ่นอย่าง Rodong ด้วยเหตุนี้ มุมมองของญี่ปุ่นต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ "ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง"
อย่างไรก็ดี แม้ทิศทางความมั่นคงของภูมิภาคยังคงไม่แน่นอน แต่การที่นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ดังที่ประกาศไว้ในการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่สิงคโปร์นั้น "มีความสำคัญยิ่ง"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงานดังกล่าวยังได้ระบุถึงโครงการหลักๆสำหรับปีงบประมาณ 2561 หนึ่งในนั้นได้แก่แผนการสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธ Aegis Ashore ภาคพื้นที่พัฒนาโดยสหรัฐ ซึ่งทางรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณาติดตั้งระบบดังกล่าว 2 จุดด้วยกันในปีงบประมาณ 2566 เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
รายงานดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ความเคลื่อนทางทหารที่มีส่วนบั่นทอนความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นกำลังปรับตัวขึ้น แต่ไม่ได้ระบุถึงประเทศใดโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังระบุชื่อประเทศจีนด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นประเทศที่ "น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง" สำหรับญี่ปุ่นและประชาคมโลก ในแง่ของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยอันสืบเนื่องมาจากอิทธิพลทางทะเลของรัฐบาลจีน