นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดเกิดใหม่ยังคงได้รับแรงกดดันในสัปดาห์นี้ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนหลังจากที่ตุรกีและอาร์เจนตินาพยายามใช้มาตรการต่างๆ เพื่อผลักดันให้สกุลเงินของตนแข็งค่าขึ้น หลังจากที่เกิดวิกฤตหนักในเดือนที่ผ่านมา
ธนาคารกลางตุรกีส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ โดยระบุว่าทางธนาคารกลางจะทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมเดือนนี้ เพื่อควบคุมความเสี่ยงต่อเสถียรภาพราคา หลังจากมีการเปิดเผยว่าอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปี
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อของตุรกีพุ่งแตะระดับ 17.9% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2546
ทางด้านอาร์เจนตินานั้น ประธานาธิบดีเมาริซิโอ มาครี ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีการส่งออกครั้งใหม่ รวมทั้งยุบบางกระทรวงเมื่อวานนี้ เพื่อยุติความผันผวนทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นายมาครียังระบุว่า เขาจะจัดสรรงบประมาณมากขึ้นสำหรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และขยายโครงการให้ความช่วยเหลือด้านอาหารแก่ประชาชนที่ยากจน
ส่วนสถานการณ์ในบราซิลยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าน หลังจากศาลสั่งยับยั้งการปล่อยตัวอดีตปธน.ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ซึ่งจะส่งผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีบราซิลที่จะมีขึ้นในเดือนต.ค.นี้ โดยคาดว่านายลูลาซึ่งเป็นผู้นำพรรคแรงงาน (PT) อาจถูกสั่งห้ามไม่ให้หาเสียง ซึ่งจะทำให้พรรคฝ่ายขวาเป็นฝ่ายได้เปรียบ
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เอสเอ็มบีซี นิคโค แคปิตอล มาร์เก็ตส์ ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า ตุรกีและอาร์เจนตินาถือเป็นสองยักษ์ใหญ่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ซึ่งความเคลื่อนไหวในสองประเทศนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม