หน่วยบรรเทาทุกข์ขององค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยว่า พลเรือนชาวซีเรียกว่า 30,000 คนต้องอพยออกจากจังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ หลังจากที่รัฐบาลซีเรียและกองกำลังพันธมิตรเปิดฉากโจมตีทางอากาศและพื้นดินเมื่อสัปดาห์ก่อน
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) ระบุว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้มุ่งทำลายฐานที่มั่นสุดท้ายของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาด ซึ่งอาจทำให้พลเรือนของซีเรียต้องอพยพออกจากพื้นที่กว่า 800,000 คน ด้านนายมาร์ค โลว์ค็อก รองเลขาธิการ OCHA เตือนว่า การโจมตีครั้งนี้อาจก่อให้เกิดหายนะด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายที่สุดในศตวรรษที่ 21
ทั้งนี้ กองกำลังซีเรียในกรุงดามัสกัสเปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่เพื่อยืดคืนจังหวัดอิดลิบ รวมถึงพื้นที่บริเวณใกล้เคียงทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ จากกลุ่มกบฏ
ทางด้านนายเดวิด สเวนสัน โฆษกประจำ OCHA กล่าวว่า ขณะนี้มีพลเรือนชาวซีเรียจำนวน 30,542 คน ได้อพยพออกจากพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียไปยังพื้นที่ต่างๆรอบจังหวัดอิดลิบ