นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยระหว่างการดีเบตทางโทรทัศน์กับนายชิเกรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นและคู่แข่งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) เมื่อวานนี้ว่า เขาเคยเตือนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เกี่ยวกับอันตรายของการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นอัตราแลกเปลี่ยน
นายอาเบะกล่าวว่า ตั้งแต่ที่เขาได้พบกับปธน.ทรัมป์เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ก็ไม่เคยออกมาโจมตีญี่ปุ่นในเรื่องค่าเงินอีกเลย แม้ก่อนหน้านั้นปธน.ทรัมป์จะเคยออกมากล่าวหาจีนและญี่ปุ่นว่าจงใจลดค่าเงินของประเทศ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าก็ตาม
นายอาเบะยังตอบคำถามในประเด็นเรื่องนโยบายการคลังด้วยว่า รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหาเงินฝืดอย่างเต็มที่ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางการคลังให้ได้ตามที่กำหนดไว้ ส่วนแผนการปรับขึ้นภาษีการขายในเดือนต.ค.2562 ก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป เว้นแต่ว่าจะเกิดวิกฤติทางการเงินขึ้นมาในระดับเดียวกับการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส
นอกจากนี้ นายอาเบะยังพูดถึงการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียแสดงความจำนงว่าต้องการให้รัสเซียและญี่ปุ่นหาข้อสรุปสนธิสัญญาสันติภาพหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ และญี่ปุ่นได้ออกมาปฏิเสธ
นายอาเบะกล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญต่างมองว่าเราควรใช้มาตรการเชิงรุกให้มากขึ้น และการประชุมระหว่างผู้นำครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นในปีนี้นั้นก็มีความสำคัญอย่างมาก
ทั้งนี้ นายชินโซ อาเบะ และนายชิเกรุ อิชิบะ กำลังอยู่ระหว่างการขับเคี่ยวหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP ที่จะขึ้นในวันที่ 20 ก.ย.นี้
ขณะที่ผลสำรวจล่าสุดจากสำนักข่าวเกียวโดที่เปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้ระบุว่า นายอาเบะมีคะแนนนำนายอิชิบะอยู่ 20 จุด โดยนายอาเบะได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกพรรค LDP ราว 55.5% ขณะที่นายอิชิบะมีคะแนนสนับสนุนอยู่ที่ 34.9%
หากนายอาเบะสามารถคว้าชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้มาได้ เท่ากับว่าเขาจะเป็นผู้นำพรรคแอลดีพีต่อไปอีก 3 ปี และกลายเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น