นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเร่งผลักดันการค้าเสรีในฐานะประเทศที่ได้รับผลประโยชน์ในช่วงหลังสงคราม และวางแผนที่จะก้าวขึ้นรับบทบาทนำในการเผยแพร่กฎเกณฑ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นธรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและภูมิภาคอื่นๆ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายกรัฐมนตรีอาเบะยังได้แสดงความต้องการที่จะพบปะหารือกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพื่อแสวงหาแนวทางยุติความขัดแย้งทางการทูตระหว่างประเทศที่ยืดเยื้อเป็นเวลานานหลายปี และเริ่มต้นความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกันขึ้นใหม่ โดยนายอาเบะไม่ได้แสดงจุดยืนให้นานาประเทศกดดันรัฐบาลเกาหลีเหนือเช่นที่เคยกล่าวต่อที่ประชุม UN เมื่อปีก่อน
นอกจากนี้ ผู้นำญี่ปุ่นยังระบุด้วยว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า ตนจะพยายามอย่างเต็มที่ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของระบบการค้าเสรี พร้อมกล่าวว่า "รัฐบาลญี่ปุ่นได้รับภารกิจในการส่งมอบผลประโยชน์ด้านการค้าให้กับประชาคมโลกอย่างเป็นธรรม"
นายกรัฐมนตรีอาเบะเปิดเผยด้วยว่า ตนจะเดินทางไปเจรจากับรัฐบาล 16 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึง จีน เพื่อสร้างเขตการค้าเสรีภายใต้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจแบบครอบคลุมภูมิภาค
ส่วนประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์เกาหลีเหนือนั้น นายอาเบะมองว่าเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายกังวล พร้อมเสริมว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะยังไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระดับปกติกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ จนกว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะสามารถแก้ไขปัญหาการลักพาตัวพลเรือนญี่ปุ่นในอดีต รวมถึงประเด็นปัญหาขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ได้
นอกจากนี้ ผู้นำญี่ปุ่นกล่าวว่า "เกาหลีเหนือตอนนี้กำลังยืนอยู่บนทางแพร่ง ระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลวในการคว้าโอกาสสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ที่ได้รับการหยิบยื่นให้ และในการแก้ปัญหาเรื่องการลักพาตัว ทั้งนี้ นายอาเบะกล่าวว่า ตนพร้อมที่จะหยุดความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันกับเกาหลีเหนือ เพื่อก้าวสู่จุดเริ่มต้นใหม่และพบปะหารือกับผู้นำเกาหลีเหนือแบบตัวต่อตัว