นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ เรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติ (UN) บังคับใช้มาตราการคว่ำบาตรที่เข้มงวดต่อเกาหลีเหนือ จนกว่าเกาหลีเหนือจะปลดโครงการอาวุธนิวเคลียร์ โดยการแสดงความเห็นของนายปอมเปโอมีขึ้นในขณะที่สหรัฐกำลังเตรียมจัดการประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ
"การบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จำต้องเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกว่าเราจะทราบว่าเกาหลีเหนือยอมยุติโครงการอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์และสามารถตรวจสอบได้" นายปอมเปโอกล่าวระหว่างการประชุม UNSC ซึ่งประกอบไปด้วย 15 ชาติสมาชิก
นายปอมเปโอยังกล่าวด้วยว่า "การนำเข้าน้ำมันปิโตรเลียมโดยใช้วิธีการโอนถ่ายจากเรือสู่เรือนั้น เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย"
"เราทุกคนต้องร่วมกันยับยั้งการส่งออกถ่านหินของเกาหลีเหนือ ซึ่งจะกลายเป็นเงินสนับสนุนโดยตรงต่อโครงการสร้างอาวุธทำลายล้าง (WMD)" เขากล่าว "และเรายังต้องรับผิดชอบในการลดจำนวนคนงานเกาหลีเหนือที่ได้รับอนุญาติให้เข้าทำงานภายในเขตพรมแดนของเราเช่นเดียวกัน"
การเรียกร้องนี้เกิดขึ้นภายหลังจากที่นางนิกกี้ ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐประจำ UN กล่าวประนามรัสเซียที่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีอย่างคงเส้นคงวาและหลากหลาย ขณะเดียวกันทางรัสเซียได้ปฎิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
นอกจากนี้ นายปอมเปโอยังระบุว่า นโยบายของปธน.ทรัมป์ส่งผลให้เกิดการประชุมสุดยอดครั้งแรกระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือที่สิงคโปร์ เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งนายคิมได้ให้ให้คำมั่นว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีโดยสมบูรณ์