นายสเตฟาน ดูจาริค โฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า สำนักงานใหญ่ UN กำลังรอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีการหายตัวไปของนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวซาอุดีอาระเบีย ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมต่อกรณีดังกล่าว
นายดูจาริค กล่าวสรุปต่อสื่อมวลชนว่า "หากเรารู้ข้อเท็จจริงมากเท่าไร เราก็จะสามารถแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าวได้มากยิ่งขึ้น"
นายดูจาริค กล่าวตอบคำถามที่ว่า นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการ UN ได้ข้อมูลติดต่อส่วนตัวของแหล่งข่าวที่เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวหรือไม่ว่า "เรากำลังติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เราเองก็รับทราบข้อมูลเช่นเดียวกันกับพวกคุณ"
นายดูจาริค ยังกล่าวด้วยว่า "เมื่อข่าวทางการประกาศออกมา เราจึงจะสามารถให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมได้" พร้อมกล่าวเสริมว่า "สำหรับกรณีนี้ สิ่งสำคัญคือการเปิดเผยความจริงให้พวกเราเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายคาช็อกกี"
รายงานจากสื่อมวลชนระบุว่า นายคาช็อกกี ซึ่งเป็นคอลัมนิสต์ของนสพ.วอชิงตัน โพสต์ ได้เดินเข้าไปยังสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในเมืองอิสตัลบูลเมื่อวันที่ 2 ต.ค. เพื่อไปรับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมการแต่งงานกับนางเฮติช เซนกิซ คู่หมั้นสาวชาวตุรกี โดยนางเฮติชได้รอนายคาช็อกกีอยู่ข้างนอกสถานกงสุลฯ เป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่กลับไม่พบนายคาช็อกกีเดินกลับออกมา จนกระทั่งทราบข่าวการหายตัวไปของเขาในที่สุด
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้าของวันนี้ นางมิเชล บาเชเลท คณะกรรมาธิการประจำสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHCHR) ได้ออกแถลงการณ์ที่สำนักงาน UN ในเจนีวาว่า จะหาแนวทางเพิกถอนสิทธิคุ้มกันทางการทูตแก่เจ้าหน้าที่ซาอุฯ ในสถานกงสุลตุรกี
นางบาเชเลท ได้กล่าวว่า "ในมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดกรณีการหายตัวไปของนายคาช็อกกีนั้น ดิฉันเชื่อว่า ความคุ้มครองทางการทูตตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล (Vienna Convention on Consular Relations) ปี 2506 นั้นควรถูกระงับใช้ชั่วคราว