รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือ G7 ออกโรงประณามเหตุการณ์สังหารนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบียที่สถานกงสุลของซาอุดีอาระเบียในกรุงอิสตันบูลของตุรกี
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศจากสหราชอาณาจักร, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ได้แสดงจุดยืนในแถลงการณ์ร่วมซึ่งระบุว่า "เราขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อกรณีการสังหารนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบียรายนี้"
สำหรับแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายเรเซพ ตอยยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีเปิดเผยว่า การเสียชีวิตของนายคาช็อกกีเป็นการลอบสังหารที่มีการวางแผนเอาไว้ล่วงหน้า พร้อมปฏิเสธคำกล่าวอ้างของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียที่ระบุว่า การเสียชีวิตของนายคาช็อกกีเป็นอุบัติเหตุหลังจากการต่อสู้ภายในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในตุรกี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มประเทศ G7 ยังระบุด้วยว่า "เราคาดหวังว่ารัฐบาลซาอุดีอาระเบียจะทำการสอบสวนเหตุดังกล่าวจะเป็นไปอย่างละเอียดถี่ถ้วน น่าเชื่อถือและโปร่งใส ผ่านการประสานความร่วมมืออย่างเต็มกำลังกับเจ้าหน้าที่ตุรกี ตลอดจนการรายงานสภาวะแวดล้อมของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายคาช็อกกีอย่างครบถ้วนสมบูรณ์และถูกต้องแม่นยำ
"ขณะเดียวกัน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุลอบสังหารนักข่าวซาอุดีอาระเบียจะต้องได้รับการลงโทษ และรัฐบาลซาอุดีอาระเบียจะต้องวางชุดมาตรการเพื่อให้แน่ใจว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก"
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการหายตัวไปของนักข่าวรายนี้ที่มีความแตกต่างออกไปในรายละเอียด ตรงข้ามกับเจ้าหน้าที่ตุรกีที่ระบุตั้งแต่ต้นว่า คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์รายนี้ถูกลอบสังหารที่มีการวางแผนไว้เอาไว้ล่วงหน้า และร่างของเขาถูกหั่นออกเป็นชิ้นๆโดยทีมสังหารของซาอุดีอาระเบียซึ่งถูกส่งมาจากกรุงริยาด
ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดีอาระเบียยืนยันในเบื้องต้นว่านายคาช็อกกีเดินทางออกจากสถานกงสุลในสภาพที่ยังมีชีวิต ก่อนที่จะยอมรับในวันที่ 20 ตุลาคมว่านักข่าวรายนี้เสียชีวิตแล้ว พร้อมระบุว่า ทางการซาอุดีอาระเบียได้ควบคุมตัวชาวซาอุดีอาระเบียไว้สอบสวน 18 คน และมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่อีก 5 คนพ้นจากตำแหน่ง