นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐออกโรงเตือนบริษัทที่ยังทำธุรกิจกับอิหร่านว่า จะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง หลังมีการลงโทษบุคคล และบริษัทรวมกว่า 700 รายที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจพลังงาน ธนาคาร การต่อเรือ และการขนส่งทางเรือ
นายปอมเปโอกล่าวว่า การที่สหรัฐกดดันอิหร่าน ทำให้อิหร่านสูญเสียรายได้จากน้ำมันไปถึง 2.5 พันล้านดอลลาร์ นับแต่เดือนพ.ค. แต่ล่าสุดได้มีการผ่อนปรนท่าทีด้วยการประกาศรายชื่อ 8 ประเทศที่ได้รับการผ่อนผันให้ยังคงสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย อิตาลี กรีซ และ ตุรกี
รัฐบาลสหรัฐเริ่มบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเมื่อวานนี้ โดยมีผลกับภาคธุรกิจพลังงาน ธนาคาร การต่อเรือ และการขนส่งทางเรือ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ และขีปนาวุธ รวมทั้งยุติการให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ สหรัฐยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร
อย่างไรก็ตาม นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในการแถลงข่าวพร้อมกับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐว่า ประเทศที่ได้รับการผ่อนผันจากมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย อิตาลี กรีซ และ ตุรกี โดยสหรัฐผ่อนผันให้ 8 ประเทศยังคงสามารถสั่งซื้อน้ำมันอิหร่านหลังจากวันที่ 4 พ.ย. และให้ทยอยลดการนำเข้าน้ำมัน
ทั้งนี้ นายปอมเปโอกล่าวว่า 2 ประเทศในกลุ่มดังกล่าวจะลดการนำเข้าน้ำมันอิหร่านจนเหลือศูนย์ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่อีก 6 ประเทศจะนำเข้าน้ำมันอิหร่านในระดับที่ลดลงเป็นอย่างมาก