นายฮัสซัน รูฮานี ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวว่า การประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่ของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่มีผลต่อเศรษฐกิจของอิหร่าน
ถ้อยแถลงของนายรูฮานีมีขึ้นหลังจากการประชุมกับประธานรัฐสภาอิหร่าน และคณะตุลาการเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดหลังจากถูกคว่ำบาตร
นายรูฮานีกล่าวว่า มาตรการคว่ำบาตรเป็นเพียงสงครามจิตวิทยา และอิหร่านพร้อมสำหรับการคว่ำบาตรระยะยาว
"ผมให้ความมั่นใจกับชาวอิหร่านได้ว่า เราจะไม่มีปัญหาในการจัดกาสินค้าที่จำเป็นเลย ประเทศเรามีการจัดเก็บสินค้าไว้เพียงพอสำหรับการคว่ำบาตรระยะเวลาหลายเดือน" นายรูฮานีกล่าว พร้อมเสริมว่า "สหรัฐมุ่งเป้าไปที่เครือข่ายธนาคารรวมถึงการส่งออกน้ำมันของเรา ซึ่งส่งผลเสียโดยตรงต่อรายได้ของประเทศ และยังเป็นการทำลายชีวิตประจำวันของประชาชนในชาติด้วย"
นายรูฮานียังกล่าวด้วยว่า การที่สหรัฐให้การผ่อนผันให้ 8 ประเทศยังสามารถนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านได้อีก 180 วัน เป็นการแสดงให้เห็นว่าสหรัฐไม่สามารถหยุดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านได้
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สหรัฐได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน โดยมีผลกับภาคธุรกิจพลังงาน ธนาคาร การต่อเรือ และการขนส่งทางเรือ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกดดันให้อิหร่านยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ และขีปนาวุธ รวมทั้งยุติการให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ สหรัฐยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านโดยสิ้นเชิงภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร
อย่างไรก็ตาม นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในการแถลงข่าวพร้อมกับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐว่า ประเทศที่ได้รับการผ่อนผันจากมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย อิตาลี กรีซ และ ตุรกี โดยสหรัฐผ่อนผันให้ 8 ประเทศยังคงสามารถสั่งซื้อน้ำมันอิหร่านหลังจากวันที่ 4 พ.ย. และให้ทยอยลดการนำเข้าน้ำมัน
ทั้งนี้ นายปอมเปโอกล่าวว่า 2 ประเทศในกลุ่มดังกล่าวจะลดการนำเข้าน้ำมันอิหร่านจนเหลือศูนย์ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่อีก 6 ประเทศจะนำเข้าน้ำมันอิหร่านในระดับที่ลดลงเป็นอย่างมาก