ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบียยังคงแข็งแกร่ง อันจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ของชาติ แม้การสืบสวนคดีฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย จะยังไม่คลี่คลายก็ตาม
ปธน.ทรัมป์กล่าวในแถลงการณ์ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า "สหรัฐหวังที่จะรักษาสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบีย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐ อิสราเอล และพันธมิตรชาติอื่นๆในภูมิภาค"
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียเป็น "พันธมิตรที่ยอดเยี่ยม" ซึ่งร่วมต่อสู้กับอิหร่าน พร้อมระบุว่า ซาอุดีอาระเบียได้ลงทุนในสหรัฐรวมมูลค่ากว่า 4.5 แสนล้านดอลลาร์ และได้ซื้ออาวุธจากบริษัทสหรัฐเป็นวงเงินสูงถึง 1.1 แสนล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์พยายามหลีกเลี่ยงที่จะชี้ขาดว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายคาช็อกกี ซึ่งเป็นประเด็นที่ประชาคมโลกออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเผ็ดร้อน
"หน่วยข่าวกรองของเราได้เดินหน้าประเมินทุกข้อมูลที่มีอยู่ในมือ โดยหลักฐานบ่งชี้ว่ามกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียทรงรับรู้ในเหตุการณ์นี้ แต่พระองค์อาจจะเป็นคนทำ หรือไม่ได้ทำก็ได้"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สื่อสหรัฐเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า สำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) ได้สรุปคดีว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เป็นผู้สั่งการให้สังหารนายคาช็อกกี ขณะที่เจ้าชายได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว
"แม้เราจะรู้รายละเอียดมากมายในอาชญากรรมครั้งนี้ แต่เราก็อาจไม่ได้รู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับการฆาตกรรมนายจามาล คาช็อกกี" ปธน.ทรัมป์กล่าว