ทางการสหรัฐกล่าวหาจีนว่ายังคงขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีจากบริษัทของสหรัฐ แม้ในช่วงเวลาที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังไม่คลี่คลายลงในขณะนี้ก็ตาม
ข้อกล่าวหาดังกล่าวระบุอยู่ในรายงานของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ที่เผยแพร่ออกมาเพียงไม่ถึง 10 วันก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะพบปะหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายนถึง 1 ธันวาคมนี้
หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ระยะเวลาในการเผยแพร่รายงานดังกล่าวอาจเป็นความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ที่มีแนวคิดสายเหยี่ยวในคณะรัฐบาลของปธน.ทรัมป์ เช่น นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ เพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าวก่อนหน้าที่การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐและจีนจะเกิดขึ้น รวมถึงคณะรัฐมนตรีรายอื่น ๆ อย่าง นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐที่ต้องการผลักดันให้เกิดการเริ่มต้นเจรจารอบใหม่ระหว่างกันขึ้น
รายงานของ USTR ระบุว่า "เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์โดยรวมแล้ว จีนยังไม่เปลี่ยนแปลงการกระทำ, นโยบายและการปฎิบัติที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดเทคโนโลยี, ทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรม ขณะเดียวกันยังเคลื่อนไหวอย่างไม่เหมาะสมในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา" นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า จีนยังคงโจมตีทางไซเบอร์ต่อบริษัทของสหรัฐ ซึ่งสถานการณ์กำลังทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง