สหรัฐระงับเส้นทางสัญจรบริเวณพรมแดนหลังผู้อพยพประท้วงในเม็กซิโก

หน่วยลาดตระเวนของสหรัฐมีคำสั่งระงับการสัญจรทั้งหมดบริเวณจุดผ่านแดนซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และเมืองตีฮัวนาของเม็กซิโก ซึ่งผู้อพยพหลายพันคนปักหลักอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อขอลี้ภัย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หน่วยงานศุลกากรและตรวจรักษาความปลอดภัยชายแดนแห่งสหรัฐอเมริกา (CBP) ในซานดิเอโกเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า การสัญจรและการข้ามแดนจากทั้งสองทิศทางจะถูกระงับเป็นการชั่วคราวที่ท่าเรือซาน อีซิโดร หลังจากที่กลุ่มผู้อพยพจากอเมริกากลางอย่างน้อย 1,800 คน ส่วนใหญ่มาจากฮอนดูรัส เดินทางถึงเมืองตีฮัวนา ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน และคาดว่าจะมีผู้อพยพอีกจำนวนมากเดินทางมาสมทบเพิ่มอีก

ขณะที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตำรวจในเมืองตีฮัวนารายงานเหตุการณ์ผู้อพยพก่อเหตุประท้วงในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ข้อความในทวิตเตอร์ของ CBP ไม่ได้ยืนยันรายงานที่ระบุว่า ผู้อพยพได้เคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวาง เพื่อพยายามข้ามผ่านพรมแดน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐยังขู่จะปิดชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก "ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามที่จำเป็น" และ "ผู้อพยพที่ชายแดนทางตอนใต้จะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสหรัฐ จนกว่าข้อเรียกร้องของพวกเขาจะได้รับการอนุมัติเป็นรายบุคคลในชั้นศาล ซึ่งทั้งหมดจะต้องรออยู่ในเม็กซิโก"

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่หนังสือพิมพ์เดอ วอชิงตัน โพสต์รายงานก่อนหน้านี้ว่า รัฐบาลเม็กซิโกเห็นพ้องสนับสนุนรัฐบาลสหรัฐในการกำหนดนโยบายผู้ลี้ภัยของสหรัฐขึ้นใหม่