รัฐสภายูเครนประกาศกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ของประเทศเป็นเวลา 30 วัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 9.00 น. ของวันพุธเป็นต้นไป
แถลงการณ์ในเว็บไซต์ระบุว่า สมาชิกรัฐสภาได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุน 276 เสียง ให้ประกาศกฎอัยการศึกเป็นระยะเวลา 30 วัน
การประกาศกฎอัยการศึกในยูเครนมีขึ้นหลังจากรัสเซียได้ยิงใส่เรือ 3 ลำของยูเครนใกล้กับช่องแคบเคิร์ชในทะเลดำเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น และได้ยึดเรือดังกล่าวพร้อมกับลูกเรือ
ก่อนหน้านี้ นายเปโดร โปโรเชงโค ประธานาธิบดียูเครน ได้หารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารและความมั่นคงก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะส่งเรื่องเข้าสู่รัฐสภาเพื่อให้การอนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากที่ผนวกคาบสมุทรไครเมียในปี 2557 รัสเซียก็ได้อ้างกรรมสิทธิเหนือน่านน้ำของคาบสมุทรดังกล่าว ขณะที่ยูเครนปฏิเสธการอ้างสิทธิของรัสเซีย
ทางด้านองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เปิดเผยว่า สมาชิกนาโตและตัวแทนจากยูเครนได้จัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ หลังเกิดการปะทะกันระหว่างเรือของยูเครนและรัสเซียใกล้คาบสมุทรไครเมืย
นาโตระบุว่า การประชุมดังกล่าวมีขึ้นตามคำเรียกร้องของนายโปโรเชงโค หลังจากที่มีการหารือกับพลเอกเจนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต
พลเอกสโตลเทนเบิร์กระบุว่า นาโตให้การสนับสนุนอธิปไตยและเอกภาพเหนือดินแดนของยูเครน รวมทั้งสิทธิในการเดินเรือในน่านน้ำของตนเองภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ
นายโปโรเชงโคกล่าวว่า กฎอัยการศึกจะประกาศใช้ในบางพื้นที่ของประเทศ ซึ่งประกอบด้วยภูมิภาคที่ติดกับรัสเซีย, ภูมิภาคทรานส์นีสเตรียแห่งสาธารณรัฐมอลโดวา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองกำลังรัสเซียประจำการอยู่ และภูมิภาคที่ติดกับชายฝั่งทะเลดำและทะเลอะซอฟ
ทั้งนี้ นายโปโรเชงโคกล่าวย้ำว่า "การประกาศใช้กฎอัยการศึกไม่ใช่การประกาศสงคราม" แต่เป็นเพียงการยกระดับการป้องกันประเทศของยูเครนเท่านั้น
ด้านนายโอเล็คซานเดอร์ ตูร์ชินอฟ ประธาน NSDC กล่าวว่า การประกาศใช้กฎอัยการศึกจะจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเพียงชั่วคราว