นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เริ่มต้นเจรจากับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลจีนในทุกระดับ ก่อนที่ปธน.ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จะหารือกันนอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ในปลายสัปดาห์นี้
นายคุดโลว์กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายได้ทำการเจรจากันเพื่อหาทางไปสู่การทำข้อตกลงทางการค้า และการประชุมสุดยอดระหว่างปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิงจะเป็นโอกาสอันดีที่จะหลุดพ้นจากการหารือที่น่าผิดหวังในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์จะหารือกับปธน.สี จิ้นผิงในประเด็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา, กรรมสิทธิ์ของบริษัทสหรัฐในจีน และการตั้งกำแพงการค้าทั้งที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวกับภาษี
"เราได้ทำการเจรจากับเจ้าหน้าที่จีนในทุกระดับ แต่การเจรจาก็ได้หยุดชะงัก และไม่มีความคืบหน้า" นายคุดโลว์กล่าว
ทั้งนี้ ในการให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า แทบเป็นไปไม่ได้ที่สหรัฐจะชะลอการปรับขึ้นอัตราภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนสู่ระดับ 25% ในวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า จากในขณะนี้ที่ระดับ 10%
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้าจีนในวงเงินเพิ่มอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันในวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ หากเขาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการหารือนอกรอบการประชุม G20
หากสหรัฐเก็บภาษีสินค้าจีนในวงเงินเพิ่มอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ ก็จะเป็นการเก็บภาษีสินค้าจีนในวงเงินรวมมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ และจะเป็นการเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่สหรัฐนำเข้าจากจีน ซึ่งรวมถึง iPhone และแล็ปท็อป
นายคุดโลว์กล่าวว่า การเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นถือเป็นการใช้อำนาจประธานาธิบดีของปธน.ทรัมป์ และจีนควรจะต้องให้ความสำคัญกับปธน.ทรัมป์
"ท่านประธานาธิบดีทรัมป์ส่งสัญญาณว่าเขาพร้อมเปิดกว้าง และจีนจะต้องดำเนินการมากขึ้นเพื่อคลายความกังวลของสหรัฐ" เขากล่าว