ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า จีนได้ตกลงที่จะ "ลดและยกเลิก" การเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิงของจีน ได้ได้บรรลุข้อตกลงยุติข้อพิพาทการค้าชั่วคราว ในการเจรจานอกรอบการประชุม G20 ที่ประเทศอาร์เจนตินา
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปัจจุบัน จีนได้เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐในอัตรา 40% โดยเพิ่มขึ้น 25% จากเดือนก.ค. เพื่อตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีน หลังสหรัฐกล่าวหาว่าจีนได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีจากสหรัฐ
ทั้งนี้ ในการเจรจานอกรอบการประชุม G20 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง เห็นพ้องกันให้เลื่อนกำหนดระยะเวลาที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกไป 90 วัน จากกำหนดเวลาเดิมในวันที่ 1 ม.ค.2562 เพื่อเปิดทางให้ทั้งสองฝ่ายได้เดินหน้าเจรจายุติข้อพิพาทการค้าระหว่างกันต่อไป
ในแถลงการณ์ซึ่งทำเนียบขาวเผยแพร่ออกมาหลังเสร็จสิ้นการหารือระหว่างผู้นำจีน-สหรัฐ ระบุว่า กำหนดการเรียกเก็บภาษีจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ม.ค.2562 นี้ จะถูกเลื่อนออกไป 90 วัน
"หากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ ก็จะมีการขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25%" ทำเนียบขาวระบุ
ทำเนียบขาวยังเปิดเผยอีกว่า จีนได้รับปากที่จะสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐ ทั้งผลิตภัณฑ์จากภาคการเกษตร, พลังงาน, สินค้าอุตสาหกรรม และอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก