นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะแทรกแซงกรณีการจับกุมตัวนางเมิ่ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งทางศาลแคนาดาเพิ่งอนุญาตให้ประกันตัวไปเมื่อวานนี้
รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การจับกุมตัวนางเมิ่งนั้นเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการค้าเหมือนกับที่หลาย ๆ ฝ่ายวิจารณ์
ขณะเดียวกัน นายรอสส์ยังได้กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งห้ามบริษัทอเมริกันขายสินค้าให้กับ ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารรายใหญ่ของจีน เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมาด้วย โดยนายรอสส์อ้างว่าการดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นเพราะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ร้องขอเป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวเช่นนี้อาจไม่เกิดขึ้นอีก
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศพร้อมจะแทรกแซงกรณีการจับกุมตัวนางเมิ่ง ว่านโจว หากจะช่วยให้บรรลุข้อตกลงการค้ากับจีนได้
ทรัมป์กล่าวว่า ตนพร้อมจะแทรกแซงคดีดังกล่าวถ้าหากคิดว่าเป็นผลดีต่อข้อตกลงการค้ากับจีน และความมั่นคงของประเทศ อย่างไรก็ตามทรัมป์เปิดเผยว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน
ทั้งนี้ นางเมิ่ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย และบุตรสาวผู้ก่อตั้งบริษัท ถูกทางการแคนาดาจับกุมตัวเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ตามคำขอของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เนื่องจากคาดว่าทางบริษัทอาจลักลอบขายสินค้าให้กับอิหร่าน ซึ่งถูกสหรัฐคว่ำบาตร
ข่าวการจับกุมตัวผู้บริหารหัวเว่ยนี้ ได้สร้างความกังวลไปทั่วโลก เพราะคาดว่าจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับจีนที่ก่อนหน้านั้นดูเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยนอกเหนือจากการออกมาเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางเมิ่ง ว่านโจวแล้ว ทางการจีนยังได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศจีนเข้าพบ ทั้งยังได้ควบคุมตัวอดีตนักการทูตชาวแคนาดารายหนึ่ง ซึ่งคาดกันว่ามีขึ้นเพื่อตอบโต้บทบาทของแคนาดาในเรื่องนี้
ล่าสุดศาลแคนาดาได้อนุญาตให้ประกันตัวนางเมิ่ง ว่านโจวแล้ว หลังจากอดีตเพื่อนร่วมงานและครอบครัวของนางเมิ่งได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดและบ้านในการขอประกันตัว อย่างไรก็ดี ยังมีความเป็นไปได้ที่นางเมิ่งจะถูกส่งตัวไปยังสหรัฐเพื่อรับการพิจารณาคดีต่อไป