นายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี เปิดเผยว่า รัฐบาลอิตาลีได้ปรับลดเป้าหมายการขาดดุลในร่างงบประมาณประจำปี 2562 ลงจากระดับ 2.4% สู่ระดับ 2.04% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพื่อเลี่ยงการดำเนินการที่ขัดต่อกฎหมายการเงินของสหภาพยุโรป (EU)
"เราได้ส่งข้อเสนอของเราให้กับ EU แล้ว ซึ่งก็คือสัดส่วนการขาดดุลงบประมาณที่ระดับ 2.04% ของตัวเลข GDP" นายคอนเตเปิดเผยผ่านทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ พร้อมระบุว่า "เราไม่ได้ทรยศต่อความไว้วางใจของชาวอิตาลี และยังคงเคารพในพันธสัญญาที่เคยให้ไว้ ตอนนี้การเจรจากับ EU กำลังดำเนินต่อไป"
อย่างไรก็ดี นายคอนเตได้ออกมาแถลงในรายการเฉพาะกิจทางสถานีโทรทัศน์ของอิตาลี หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมกับนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ว่า คำมั่นสัญญาที่รัฐบาลของเขาได้เคยให้ไว้เมื่อครั้งรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งทั้ง 2 ข้อ ได้แก่ การสร้างรายได้พื้นฐานให้กับคนจนและผู้ว่างงาน และยกเลิกนโยบายปฏิรูปบำนาญปี 2554 ซึ่งไม่เป็นที่นิยมนั้น "อยู่เหนือขอบเขต" และเสียงข้างมากในรัฐบาลต่างก็เห็นพ้องกับการแก้ไขตัวเลขการขาดดุลงบประมาณในครั้งนี้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว EU ได้ปฏิเสธที่จะให้การรับรองงบประมาณประจำปี 2562 ของอิตาลี พร้อมกับประกาศเตรียมลงโทษอิตาลีด้วยการสั่งปรับเนื่องจากร่างงบประมาณดังกล่าวขัดต่อกฎหมายทางการเงินของ EU หลังจากที่รัฐบาลอิตาลีได้เพิ่มตัวเลขขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2562 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขขาดดุลงบประมาณ 0.8% ของ GDP ของรัฐบาลชุดเดิม
นอกจากนี้ ร่างงบประมาณฉบับเดิมของอิตาลียังถูกวิพากษ์วิจารณ์จากทั้งสำนักงานงบประมาณของรัฐสภาอิตาลี, สำนักงานสถิติแห่งชาติอิตาลี (ISTAT), ศาลบัญชีอิตาลี, ธนาคารกลางอิตาลี, สำนักงานบำนาญและสวัสดิการสังคมของอิตาลี, สภาอุตสาหกรรม, องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รวมถึงสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ เช่น ฟิทช์ เรทติ้งส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P)