นายมาร์เซโล เอบราด รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเม็กซิโก กล่าวว่า เม็กซิโกและสหรัฐได้ให้คำมั่นร่วมกันว่าจะเพิ่มและกระตุ้นการลงทุนในพื้นที่ทางตอนใต้ของเม็กซิโกและอเมริกากลาง เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการอพยพครั้งใหญ่
นายเอบราดเปิดเผยเนื้อหาในปฏิญญาความร่วมมือว่า สหรัฐจะจัดสรรงบประมาณ 5.8 พันล้านดอลลาร์ให้กับการดำเนินการเพื่อปฏิรูปและพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่สามเหลี่ยมทางตอนเหนือที่ยากจนของอเมริกากลาง ซึ่งประกอบด้วยฮอนดูรัส กัวเตมาลา และเอล ซัลวาดอร์
นอกจากนี้ สหรัฐยังได้ให้คำมั่นที่จะกระตุ้นการลงทุนในภาคเอกชนและภาครัฐบาลในเม็กซิโก มูลค่า 4.8 พันล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มต้นในปี 2562 ในงบดังกล่าวจะถูกนำไปใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาโครงการในรัฐทางใต้ที่ยากจนกว่ามูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์
ทางด้านเม็กซิโกได้ประกาศจะจัดสรรงบ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า เพื่อกระตุ้นโครงการงานภาคสาธารณะและการจ้างงานทางตอนใต้ของประเทศ
นายเอบราด กล่าวว่า "ผมคิดว่านี่เป็นข่าวดี ข่าวดีมากๆ สำหรับเม็กซิโก นี่แค่บอกเป็นสถิตินะ สิ่งที่เราทำที่นี่มีความหมายมากกว่าการลงทุนต่างประเทศในพื้นที่ทางใต้ของเม็กซิโกเป็น 2 เท่าเสียอีก เม็กซิโกและสหรัฐกำลังพยายามและด้วยความร่วมมือจากนานาชาติและประเทศในภูมิภาค เพื่อสร้างอเมริกากลางที่รุ่งเรืองและมั่นคง และนั่นจะเป็นการแก้สาเหตุที่สำคัญของการอพยพ"
การอพยพจำนวนมหาศาลไปยังสหรัฐของชาวอเมริกากลางเพื่อหลีกหนีความยากจนเมื่อไม่นานมานี้ ได้เน้นให้เห็นถึงปัญหาบริเวณพรมแดน สำนักข่าวซินหัวรายงาน