สมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้วางแผนที่จะยุติภาวะที่หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลต้องปิดทำการ หรือชัตดาวน์ ด้วยการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวโดยไม่รวมงบประมาณการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เรียกร้อง
ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวางแผนที่จะผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวในวันพฤหัสบดีที่ 3 ม.ค.ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งเป็นวันที่พรรคเดโมแครตครองจะเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอย่างเป็นทางการ โดยการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวในครั้งนี้จะทำให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิมีงบประมาณในการดำเนินงานไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ. นอกจากนี้ ร่างงบประมาณฉบับดังกล่าวยังรวมถึงการให้งบประมาณแก่หน่วยงานอื่นๆอีก 6 แห่งที่ถูกชัตดาวน์ ซึ่งรวมถึงกระทรวงเกษตร กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยและพื้นที่เขตเมือง
สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในสภาคองเกรสว่า งบประมาณที่จะอนุมัติให้กับกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในวันพฤหัสบดีนี้ จะรวมถึงงบประมาณสำหรับการสร้างรั้วที่บริเวณชายแดนและมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านอื่นๆ วงเงิน 1.3 พันล้านดอลลาร์ แต่จะไม่รวมงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ที่ปธน.ทรัมป์ได้เรียกร้องก่อนหน้านี้
หากร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวผ่านความเห็นชอบในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภาสหรัฐซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่า ร่างกฎหมายงบประมาณฉบับนี้อาจจะไม่ผ่านการรับรองจากวุฒิสภา เมื่อพิจารณาจากท่าทีอันแข็งกร้าวของปธน.ทรัมป์ที่กล่าวว่า เขาจะทำทุกอย่างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เพื่อให้ได้มาซึ่งงบประมาณในการสร้างกำแพง โดยทรัมป์ให้เหตุผลถึงความปลอดภัยบริเวณชายแดนของสหรัฐ
ภาวะชัตดาวในสหรัฐได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงพ้นเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค. 2561 ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. 2561 ตามเวลาไทย และยืดเยื้อมาจนถึงขณะนี้ หลังจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติร่างกฎหมายที่บรรจุงบประมาณสำหรับก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ปธน.ทรัมป์ได้ปฏิเสธที่จะลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณที่ไม่รวมงบประมาณการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกเช่นกัน