นายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท แอปเปิล อิงค์ เปิดเผยว่า เขาไม่รู้สึกกังวลเกี่ยวกับเดินทางเข้าประเทศจีนแต่อย่างใด แม้ก่อนหน้านี้ทางการแคนาดาได้จับกุมตัวผู้บริหารบริษัท หัวเว่ย ตามคำขอของรัฐบาลสหรัฐ นอกจากนี้ นายผู้บริหารแอปเปิลกล่าวว่า เขาไม่ได้วิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ทางการจีนจะตอบโต้สหรัฐในเรื่องนี้
นายคุกเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขาได้เดินทางไปยังประเทศจีนเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว และเพิ่งเดินทางกลับมาเมื่อไม่นานมานี้
ในช่วงต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา นางเมิ่ง ว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (ซีเอฟโอ) ของบริษัทหัวเว่ย ได้ถูกทางการแคนาดาจับกุมตัวถูกจับกุมตัว ตามคำขอของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ โดยนางเมิ่งถูกระบุว่าได้ใช้บริษัทสกายคอม ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อบังหน้า (shell company) ในการทำธุรกิจกับอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐบังคับใช้ต่ออิหร่าน ในช่วงปี 2552-2557
ทั้งนี้ การจับกุมตัวผู้บริหารหัวเว่ยส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า จีนอาจตอบโต้สหรัฐในลักษณะเดียวกัน อย่างไรก็ตาม นายคุกได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า "ผลไม่ทราบสถานการณ์นั้นและผมไม่จำเป็นต้องรู้และไม่ควรรู้ แต่สิ่งที่ผมสามารถบอกคุณได้คือ ผมได้รับการต้อนรับอย่างดีเมื่อไปจีน"
อย่างไรก็ตาม แอปเปิลได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ประจำไตรมาสแรกของปีการเงินของบริษัทซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากเดิมที่คาดไว้ในช่วง 8.9-9.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงเหลือ 8.4 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดไว้ว่าแอปเปิลจะมีรายได้อยู่ที่ 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์
นายคุกได้แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ว่า การปรับลดคาดการณ์รายได้ครั้งนี้เป็นผลจากยอดขาย iPhone ที่ชะลอตัวลงในจีน โดยนอกจากเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนแล้ว ผู้บริโภคชาวจีนบางรายยังเลือกที่จะไม่ซื้อสินค้าจากแอปเปิลเพราะแอปเปิลเป็นบริษัทของสหรัฐ และหันไปซื้อสินค้าจากบริษัทจีนที่เป็นคู่แข่งแทน เช่น หัวเว่ย