นางแนนซี เพโลซี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครต ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ของสหรัฐอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นวันแรกของสมัยการประชุมสภาคองเกรสที่พรรคเดโมแครตสามารถกลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้อีกครั้ง ขณะที่พรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ในวุฒิสภา
นางเพโลซี วัย 78 ปี เป็นสุภาพสตรีเพียงคนเดียวที่ได้นั่งตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ และเป็นหนึ่งในส.ส.เพียงไม่กี่คนที่สามารถกลับมารับตำแหน่งดังกล่าวได้อีกครั้ง โดยเธอเคยดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรในช่วงปี 2550-2554 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในการก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 2 นี้ นางเพโลซีสามารถเอาชนะคู่แข่งอย่างนายเควิน แมคคาร์ธีย์ จากพรรครีพับลิกัน ด้วยคะแนนโหวต 220 คะแนน จากจำนวนส.ส.ทั้งหมด 430 คน
ภายหลังจากได้รับเลือกให้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรอย่างเป็นทางการแล้ว นางเพโลซีได้แถลงว่า สภาผู้แทนราษฎรควรเป็น "ศาลากลางสำหรับชาวอเมริกัน" ซึ่งรับฟังเสียงของประชาชนและนำไปประกอบการตัดสินใจของฝ่ายนิติบัญญัติ
นอกจากนี้ นางเพโลซียังได้กล่าวถึงเป้าหมายการดำเนินงานของพรรคเดโมแครต ซึ่งรวมถึงการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน การปรับลดต้นทุนด้านสุขภาพของประชาชน การลงทุนในสาธารณูปโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการฟื้นฟูศีลธรรมความซื่อสัตย์ในรัฐบาล ขณะเดียวกันนางเพโลซียังได้เสนอมาตรการต่างๆที่จะยุติภาวะชัตดาวน์ที่ยืดเยื้อมาเป็นวันที่ 13
"พรรคเดโมแครตจะเสนอร่างกฎหมายที่เหมาะสมให้สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาทำการพิจารณา เพื่อนำไปสู่การเปิดหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล" นางเพโลซีกล่าว