สหภาพแรงงานของสำนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศ ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดกรมการบินของรัฐบาลกลางสหรัฐ ได้ทำการยื่นฟ้องต่อศาล กรณีที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ทำการจ่ายเงินเดือนแก่พนักงานของสหภาพ เนื่องจากรัฐบาลขาดแคลนงบประมาณอันเป็นผลจากการที่ปธน.ทรัมป์และสภาคองเกรสมีความขัดแย้งกันในประเด็นการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก ซึ่งส่งผลให้หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลต้องปิดทำการ (ชัตดาวน์) เป็นเวลา 21 วันแล้ว
ทั้งนี้ พนักงานควบคุมการจราจรทางอากาศเป็นข้าราชการส่วนหนึ่งจากจำนวน 420,000 คนที่ได้รับการมองว่ามีความสำคัญ และถูกสั่งให้ทำงานโดยไม่ได้รับเงินเดือนในระหว่างที่ภาวะชัตดาวน์ยังคงดำเนินต่อไป
ขณะนี้ ปธน.ทรัมป์และแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการจัดสรรงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์
ภาวะชัตดาวน์ที่ดำเนินมา 21 วันในขณะนี้ เทียบเท่ากับสถิติยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน โดยเริ่มต้นในวันที่ 15 ธ.ค.2538
ปธน.ทรัมป์เคยเผชิญภาวะชัตดาวน์ก่อนหน้านี้ในวันที่ 19 ม.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งมีระยะเวลาเพียง 2 วัน
ทั้งนี้ ภาวะชัตดาวน์ครั้งล่าสุดในสหรัฐได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงพ้นเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 21 ธ.ค.2561 ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค. 2561 ตามเวลาไทย และยืดเยื้อมาจนถึงขณะนี้ หลังจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติร่างกฎหมายที่บรรจุงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ปธน.ทรัมป์ก็ได้ปฏิเสธที่จะลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณที่ไม่รวมงบประมาณในการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกเช่นกัน
ปธน.ทรัมป์กล่าวอย่างชัดเจนว่า เขาพร้อมที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ หากการเจรจากับสภาคองเกรสไม่ประสบความคืบหน้าในการอนุมัติงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก
ทั้งนี้ การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าว จะทำให้ปธน.ทรัมป์มีอำนาจออกกฎหมายพิเศษโดยไม่ต้องขอการอนุมัติจากสภาคองเกรสสำหรับการสร้างกำแพงโดยใช้งบประมาณที่มีการจัดสรรไว้แล้วสำหรับกองทัพ