บริษัทหัวเว่ย ธุรกิจโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน ได้ออกแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทได้ไล่นายหวัง เว่ยจิง พนักงานรายหนึ่งของบริษัทหัวเว่ยที่ถูกทางการโปแลนด์จับกุมในข้อหาทำการสอดแนมแล้ว พร้อมยืนยันว่า บริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องกับการกระทำของพนักงานรายนี้
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า "หัวเว่ยปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องในประเทศที่ทำธุรกิจ และเราเรียกร้องให้พนักงานทุกคนเคารพกฎหมายและข้อบังคับในประเทศที่ตนประจำการ"
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หัวเว่ยกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้มีข้อกล่าวหาจากหลายประเทศว่าหัวเว่ยมีพฤติกรรมสอดแนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐที่กล่าวหาว่าหัวเว่ยทำงานภายใต้คำสั่งของรัฐบาลจีน และอุปกรณ์ของหัวเว่ยสามารถใช้เพื่อสอดแนมพลเมืองสหรัฐได้
ด้านนายโจอาคิม บรัดซินสกี รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของโปแลนด์ ได้เรียกร้องให้สหภาพยุโรปและชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือ NATO หารือร่วมกันเพื่อตัดสินว่าจะนำหัวเว่ยออกจากประเทศของตนหรือไม่
นายบรัดซินสกี เปิดเผยว่า ทางการโปแลนด์ต้องการเดินหน้าความร่วมมือและสานสัมพันธ์อันดีกับจีนต่อไป แต่ยังคงต้องมีการหารือเกี่ยวกับอนาคตของหัวเว่ยในบางประเทศ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังก่อนหน้านี้ สื่อโปแลนด์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของโปแลนด์ได้เข้าจับกุมตัวพนักงานรายหนึ่งของบริษัทหัวเว่ยในข้อหาทำการสอดแนม
พนักงานของหัวเว่ยดังกล่าวเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายของบริษัท และมีสัญชาติจีน
นอกจากพนักงานของหัวเว่ยแล้ว เจ้าหน้าที่ยังรวบตัวอดีตเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของโปแลนด์ ซึ่งได้ทำงานอยู่ในบริษัทสาขาของออเรนจ์ ที่ตั้งในโปแลนด์
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานความมั่นคงภายในของโปแลนด์ได้เข้าตรวจค้นสำนักงานของหัวเว่ย และออเรนจ์ และมีการยึดเอกสารบางส่วน
หากศาลตัดสินว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 รายมีความผิดจริง ก็จะถูกจำคุกเป็นเวลา 10 ปี