นักการเมืองอาวุโสจากพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษกล่าวว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่อังกฤษจะเสร็จสิ้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ได้ตามกำหนดในวันที่ 29 มี.ค.นี้ พร้อมเตือนว่าการที่รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามกำหนดระยะเวลาได้นั้นถือเป็นการหักหลังประชาชน และจะนำสู่การเกิดคลื่นสึนามิทางการเมืองในที่สุด
นายเคร์ สตาร์เมอร์ โฆษกพรรคแรงงานและรัฐมนตรีเงาของกระทรวง Brexit เปิดเผยกับสำนักข่าวบีบีซีว่า รัฐบาลอาจต้องขอขยายระยะเวลาการแยกตัวจาก EU ออกไปก่อน เพราะตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ 68 วันก็จะถึงกำหนดในวันที่ 29 มี.ค. แต่เรากลับยังไม่มีความพร้อมอะไรเลย ซึ่งมันอาจทำให้เกิดหายนะตามมา
สถานการณ์การเมืองในอังกฤษต้องเผชิญความไม่แน่นอนอีกครั้ง หลังรัฐสภาอังกฤษลงมติเมื่อวันอังคารที่แล้ว ด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 432 ต่อ 202 เสียง ปฏิเสธร่างข้อตกลง Brexit ที่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ทำไว้กับผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ส่งผลให้นางเมย์ต้องยื่นแผน Brexit ฉบับใหม่ต่อรัฐสภาในวันนี้ และรัฐสภาจะทำการอภิปราย และลงมติต่อแผนดังกล่าวในวันที่ 29 ม.ค.
ขณะที่กำหนดการแยกตัวออกจาก EU ใกล้เข้ามาทุกที โดยเหลือระยะเวลาอีกแค่ 2 เดือนเศษ ท่ามกลางความตึงเครียดจากความวิตกกังวลที่ว่าอังกฤษอาจต้องแยกตัวออกจาก EU โดยไร้ข้อตกลง ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าจะทำให้เกิดปัญหาด้านภาษีและการทำธุรกิจ จนกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ก็กำลังขยายตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลดังกล่าวได้ส่งผลให้หลายฝ่ายเริ่มมีความแตกแยกเกิดขึ้น โดยผู้นำพรรคฝ่ายค้าน รวมทั้งภาคธุรกิจของอังกฤษ เรียกร้องให้มีการจัดการลงประชามติครั้งใหม่ว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งจะใช้ชื่อว่า "People's Vote"
ด้านฝ่ายสนับสนุน Brexit ก็ได้ออกมาคัดค้านการลงประชามติครั้งใหม่ โดยอ้างว่าจะไม่เป็นประชาธิปไตย เนื่องจากฝ่ายสนับสนุน Brexit ได้รับชัยชนะมาแล้วในการลงประชามติเดือนมิ.ย.2559 ซึ่งรัฐบาลควรดำเนินการให้เป็นไปตามประชามติดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองอีกบางส่วนที่ต้องการให้รัฐบาลขอขยายระยะเวลากระบวนการ Brexit ออกไปจนกว่าทุกฝ่ายจะหาข้อสรุปร่วมกันได้