สำนักบริหารศาลสหรัฐเปิดเผยว่า ศาลรัฐบาลกลางจะหยุดทำการชั่วคราวเนื่องจากขาดแคลนงบประมาณนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป หลังจากที่ต้องชะลอการใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ไม่จำเป็นและจัดสรรจากค่าธรรมเนียมการยื่นฟ้องศาลและงบจากส่วนอื่นๆ
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างแถลงการณ์จากสำนักบริหารศาลสหรัฐที่ระบุว่า "จะไม่มีการขยายระยะเวลาทำการเกินกว่าวันที่ 1 ก.พ.นี้" และ "มาตรการส่วนใหญ่เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว และตุลาการจะต้องเผชิญกับภาระรายจ่ายที่รอการตัดบัญชี หลังปัญหาการปิดตัวของหน่วยงานรัฐบาลส่วนหรือภาวะชัตดาวน์สิ้นสุดลงหลังจากนี้"
โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานศาลและทนายของรัฐดำเนินการเลื่อนหรือชะลอการใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน เช่น การจ้างงานใหม่, การเดินทางที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดี รวมถึงการทำเอกเทศสัญญา พร้อมเสริมว่า เจ้าพนักงานอัยการยังคงทำงานและได้รับค่าตอบแทนเต็มจำนวน
อย่างไรก็ดี หากงบประมาณในการดำเนินงานหมดลง ศาลแต่ละแห่งจะพิจารณาให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีความจำเป็นสำหรับสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจสำคัญของศาลเท่านั้น และเพื่อเป็นการตอบสนองคำร้องของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ศาลรัฐบาลกลางบางแห่งจะออกคำสั่งให้ระงับหรือเลื่อนการพิจารณาคดีแพ่งที่รัฐบาลเป็นคู่กรณีออกไปก่อน
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐเป็น 1 ใน 9 หน่วยงานระดับรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาล ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่ลงรอยกันของรัฐบาลและสภาคองเกรสในประเด็นการผ่านร่างงบประมาณก่อสร้างกำแพงกั้นบริเวณพรมแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกมูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอ
ทั้งนี้ แม้ว่าสถานการณ์ชัตดาวน์เกิดขึ้นยาวนานสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ แต่รัฐบาลและแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสยังไม่สามารถเห็นพ้องกันในข้อตกลงที่จะยุติภาวะชะงักงันทางการเมืองในขณะนี้ได้