นายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ "ทางการทูตและการเมือง" กับสหรัฐอเมริกา หลังสหรัฐให้การยอมรับนายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ในฐานะประธานาธิบดีชั่วคราวของเวเนซุเอลา
ปธน.มาดูโร กล่าวต่อกลุ่มผู้สนับสนุนที่ชุมนุมกันนอกสำนักประธานาธิบดีในกรุงการากัสว่า "ผมได้ตัดสินใจตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและการเมืองกับพวกจักรวรรดินิยมอย่างรัฐบาลสหรัฐ"
นอกจากนี้ ปธน.มาดูโรยังได้สั่งให้บุคลากรฝ่ายทูตและฝ่ายกงสุลของสหรัฐทุกคนออกจากประเทศภายในเวลา 72 ชั่วโมง พร้อมกล่าวโทษรัฐบาลสหรัฐว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง "แผนการก่อรัฐประหารเพื่อสร้างรัฐบาลหุ่นเชิดในเวเนซุเอลา"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประกาศดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า สหรัฐให้การยอมรับนายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ในฐานะประธานาธิบดีชั่วคราวของเวเนซุเอลา ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายกุยโดได้ออกมาประกาศตนเป็นประธานาธิบดีชั่วคราวเมื่อวานนี้
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังเปิดเผยด้วยว่า ตนยังไม่กำจัดตัวเลือกทางทหารออกไป พร้อมแถลงต่อสื่อมวลชนในภายหลังว่า "ตัวเลือกทั้งหมดยังอยู่บนโต๊ะพิจารณา"
แม้ปธน.มาดูโร ได้ออกมาตอบโต้อย่างดุเดือด แต่นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ได้ออกมายืนยันว่า บุคลากรฝ่ายทูตของสหรัฐทั้งหมดในเวเนซุเอลานั้นจะไม่ออกนอกประเทศตามคำสั่ง และกล่าวเสริมว่า รัฐบาลสหรัฐจะสานความสัมพันธ์ทางการทูตผ่านรัฐบาลของ "ประธานาธิบดีชั่วคราว"
นายปอมเปโอ ระบุในแถลงการณ์ว่า "รัฐบาลสหรัฐเห็นว่าอดีตประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐ"
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังเมื่อวานนี้ นายฮวน กุยโด ประธานสมัชชาแห่งชาติและผู้นำพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลาวัย 35 ปี ได้ประกาศตนเป็นประธานาธิบดีชั่วคราวของเวเนซุเอลา
การประกาศตนของนายกุยโดได้รับการสนับสนุนจากบราซิล ซึ่งยอมรับว่านายฮวน กุยโด เป็นประธานาธิบดีชั่วคราวของเวเนซุเอลา
กระทรวงต่างประเทศบราซิล ระบุในแถลงการณ์ว่า บราซิลจะให้การสนับสนุนทางการเมืองและเศรษฐกิจรองรับกระบวนการเปลี่ยนผ่าน เพื่อนำประชาธิปไตยและสันติภาพกลับคืนสู่เวเนซุเอลา