คณะกรรมการการเลือกตั้งของฟิลิปปินส์แถลงว่า ชาวมุสลิมส่วนใหญ่บนเกาะมินดาเนาได้ออกมาใช้สิทธิลงประชามติเห็นชอบต่อแผนการปกครองตนเองบนเกาะดังกล่าว
ทั้งนี้ ชาวมุสลิมนับเป็นชนกลุ่มน้อยในฟิลิปปินส์ ซึ่งส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
การลงประชามติดังกล่าว ถือเป็นบทสรุปของความพยายามในกระบวนการเจรจาสันติภาพนานหลายสิบปีระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์ และกลุ่มมุสลิมติดอาวุธเพื่อยุติปัญหาความรุนแรงบนเกาะมินดาเนา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 120,000 คน
ชาวมุสลิมได้ลงประชามติให้การสนับสนุนต่อแผนสันติภาพที่ได้รับความเห็นชอบจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดน และรัฐบาลฟิลิปปินส์ในการตั้งเขตปกครองตนเอง ซึ่งใช้ชื่อว่า บังซาโมโร
ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตได้ลงนามในกฎหมาย Bangsamoro Organic Law (BOL) ในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว โดยเขาหวังว่ากฎหมายดังกล่าวจะช่วยยุติความขัดแย้งกับชาวมุสลิมบนเกาะมินดาเนา หลังจากที่เกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมในดินแดนดังกล่าวกับกองกำลังของรัฐบาลในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กฎหมาย BOL ถือเป็นผลของการเจรจาเป็นเวลาหลายสิบปีระหว่างกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (MLIF) และรัฐบาลฟิลิปปินส์
ภายใต้กฎหมาย BOL จะมีการจัดตั้งเขตปกครองตนเองบังซาโมโรในมินดาเนามุสลิม (BARMM) ซึ่งจะมีการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้ง และมีการออกกฎหมายของตนเอง
รัฐบาลของ BARMM จะมีมุขมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล และมีรัฐสภาที่ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 80 คน
นอกจากนี้ BARMM จะได้รับรายได้จากเงินภาษีในสัดส่วน 75% ของภาษีที่มีการจัดเก็บในดินแดนดังกล่าว
ส่วนในประเด็นความมั่นคงนั้น รัฐบาลฟิลิปปินส์จะรับผิดชอบด้านความมั่นคงและปลอดภัยใน BARMM โดยตำรวจจากสำนักงานตำรวจฟิลิปปินส์จะมีการจัดตั้งสำนักงานภูมิภาคใน BARMM เพื่อบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว