นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กำลังเผชิญแรงกดดันจากนักการเมืองอังกฤษ เพื่อเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในนโยบาย Backstop ซึ่งเป็นนโยบายเกี่ยวกับระบบศุลกากรระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ก่อนที่รัฐสภาอังกฤษจะอภิปราย และลงมติต่อแผนการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ฉบับใหม่ของนางเทเรซา เมย์ ในวันที่ 29 ม.ค.นี้
นายบอริส จอห์นสัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ได้เรียกร้องให้นางเมย์เปลี่ยนแปลงเนื้อหาในนโยบาย Backstop ด้วยการระบุข้อสัญญาให้ไอร์แลนด์เหนือซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร แยกเป็นอิสระจากสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นรัฐสมาชิกของสหภาพยุโรป พร้อมระบุว่า หากนางเมย์ทำเช่นนี้ได้แล้ว นางเมย์ก็น่าจะได้รับเสียงสนับสนุนมากพอที่จะทำให้ข้อตกลง Brexit ของเธอได้รับความยินยอมจากรัฐสภาอังกฤษ
อย่างไรก็ดี รองนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ได้ออกมายืนยันว่านโยบายดังกล่าวจะต้องไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงจริงแล้ว สาธารณรัฐไอร์แลนด์และสหภาพยุโรปจะไม่ยอมรับข้อตกลงนี้
ทั้งนี้ ไอร์แลนด์เหนือและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ ได้พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะ Hard Border หรือพรมแดนที่มีการตั้งด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านตรวจศุลกากร ด้วยการอาศัยนโยบาย Backstop หรือนโยบายที่ทั้งสองฝ่ายใช้ระบบศุลกากรร่วมกัน ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกชนิด ยกเว้นสินค้าประมง ซึ่งหมายถึงการมอบอำนาจในการกำหนดอัตราภาษีขาเข้าให้กับสหภาพยุโรปหลังแยกตัวไปแล้ว
นโยบายดังกล่าวไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักการเมืองอังกฤษที่สนับสนุน Brexit เพราะกังวลว่าจะเป็นการผูกมัดสหราชอาณาจักรเข้ากับระเบียบของสหภาพยุโรป