กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ตั้งข้อหากับผู้บริหารและบริษัทในเครือหัวเว่ย เทคโนโลยี่ 2 แห่ง ในข้อหากระทำความผิดทางฐานละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐบังคับใช้ต่ออิหร่าน
นายแมทธิว วิทเทเกอร์ รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐได้กล่าวในแถลงการณ์ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้ตั้งข้อหาในคดีอาญาต่อนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ รวมทั้งบริษัทหัวเว่ย ดีไวซ์ ยูเอสเอ อิงค์ และสกายคอม เทค โค ในการกระทำความผิดเกือบ 24 คดีด้วยกัน
นางคริสต์เจน นีลสัน รัฐมนตรีช่วยความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ กล่าวว่า หัวเว่ยและนางเมิ่ง "ทำผิดกฎหมายสหรัฐ และมีส่วนรู้เห็นในการฉ้อโกงเงินซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของสหรัฐ"
นางนีลสันยังกล่าวด้วยว่า "พวกเขาทำธุรกรรมเป็นวงเงินหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านและกฎข้อบังคับของมาตรการคว่ำบาตร"
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นางเมิ่งถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมหลอกลวงในกรณีลักลอบทำข้อตกลงทางธุรกิจกับอิหร่าน โดยนางเมิ่งถูกระบุว่าได้ใช้บริษัทสกายคอม ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อบังหน้า (shell company) ในการทำธุรกิจกับอิหร่าน ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรที่สหรัฐบังคับใช้ต่ออิหร่านในช่วงปี 2552-2557
นอกจากนี้ นางเมิ่งยังถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าหลอกลวงสาธารณชนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานะของบริษัทสกายคอม โดยเมื่อครั้งที่สหรัฐระบุว่าสกายคอมและหัวเว่ยเป็นบริษัทเดียวกันนั้น นางเมิ่งยืนยันว่า สกายคอมได้แยกตัวออกจากหัวเว่ยแล้ว