ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ขึ้นกล่าวแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสสหรัฐ โดยทรัมป์เปิดฉากด้วยการกล่าวว่า เขามองเห็นโอกาสใหม่ๆในแวดวงการเมืองของสหรัฐ และยังกล่าวด้วยว่า สหรัฐจะต้องสร้างมาตรฐานการดำรงชีวิตแบบใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21
ในโอกาสนี้ ทรัมป์ได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมาย First Step Act ซึ่งเป็นร่างกฎหมายปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมในคดีอาญา โดยกล่าวว่า "ควรให้โอกาสผู้กระทำความผิดที่ไม่ร้ายแรง สามารถเข้าเข้าสู่สังคมได้อีกครั้ง ในฐานะพลเมืองที่เคารพกฎหมายและมีศักยภาพ"
ทรัมป์ยังได้กล่าวถึงประเด็นเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วมากนับตั้งแต่เขาก้าวเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐ
"ความอัศจรรย์ทางเศรษฐกิจกำลังเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา และสิ่งที่จะหยุดยั้งความอัศจรรย์นี้ได้ก็มีแค่สงคราม การเมือง หรือการตรวจสอบแบบเลือกข้างที่ไร้สาระ" ทรัมป์กล่าว โดยอ้างอิงถึงกรณีที่นายโรเบิร์ต มุลเลอร์ อัยการพิเศษที่ทำการตรวจสอบกรณีรัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐในปี 2559
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้กล่าวถึงการที่เขาตัดสินใจถอนกำลังทหารออกจากซีเรียและอัฟกานิสถาน แม้ว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันหลายคนออกมาคัดค้านก็ตาม
การกล่าวสุนทรพจน์ของปธน.ทรัมป์ต่อสภาคองเกรสในครั้งนี้ เป็นการแถลงนโยบายต่อวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ที่เขาเข้าดำรงตำแหน่งปธน.ของสหรัฐ โดยมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เพื่อให้ชาวสหรัฐได้รับชมทั่วประเทศ