สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่ง กล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการที่จะดูเนื้อหาในข้อตกลงที่สมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันเห็นพ้องกันในการหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ก่อนที่ปธน.ทรัมป์จะลงนามในข้อตกลงดังกล่าว
ข้อตกลงดังกล่าวมีการให้งบประมาณในการสร้างรั้วกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ได้เคยปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงก่อนหน้านี้ที่มีการให้งบประมาณสร้างกำแพง 1.6 พันล้านดอลลาร์
นายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า การเจรจาระหว่างสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในการหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์รอบที่ 2 ในวันที่ 15 ก.พ. ประสบความคืบหน้า
นายแมคคาร์ธีระบุว่า ทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราว โดยพรรคเดโมแครตยอมอ่อนข้อต่อข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนที่ติดกับเม็กซิโก
นายแมคคาร์ธียังกล่าวว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก่อนหน้านี้ยืนกรานว่าจะไม่มีการให้งบประมาณสร้างกำแพง แต่ในการทำข้อตกลงชั่วคราว นางเพโลซีไม่ได้แสดงการคัดค้านต่อข้อเรียกร้องของปธน.ทรัมป์แต่อย่างใด และขณะนี้ พรรคเดโมแครตเห็นพ้องต่อแนวคิดในการสร้างรั้วความยาวมากกว่า 55 ไมล์
อย่างไรก็ดี นายดรูว์ แฮมมิล ซึ่งเป็นรองหัวหน้าคณะทำงานของนางเพโลซี กล่าวว่า "ข้อตกลงนี้ก็ยังคงไม่มีการให้เงินสร้างกำแพง และที่ผ่านมา พรรคเดโมแครตก็ได้สนับสนุนการสร้างรั้วอยู่แล้ว และข้อตกลงนี้ก็มีวงเงินสนับสนุนการสร้างรั้วเท่ากับในปีที่แล้ว"
แหล่งข่าวในสภาคองเกรสเปิดเผยว่า ตัวแทนการเจรจาจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวในการหลีกเลี่ยงภาวะชัตดาวน์ โดยที่ประชุมเห็นพ้องกันในการสร้างรั้ววงเงิน 1.4 พันล้านดอลลาร์ แต่ไม่ใช่กำแพงคอนกรีตที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ
ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้มีการสร้างกำแพงความยาว 215 ไมล์ วงเงิน 5.7 พันล้านดอลลาร์กั้นชายแดนเม็กซิโก ซึ่งส่งผลให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคเดโมแครต และรีพับลิกันในสภาคองเกรส จนนำไปสู่ภาวะชัตดาวน์ 35 วัน ซึ่งเป็นสถิติยาวนานเป็นประวัติการณ์ของสหรัฐ
นอกจากนี้ ข้อตกลงชั่วคราวดังกล่าวจะลดจำนวนเตียงในสถานกักกันผู้อพยพที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายลง 17% จากปัจจุบันที่ระดับ 49,057 เตียง สู่ระดับ 40,520 เตียง