สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์กัมพูชาได้เปิดเผยมาตรการบางส่วน ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ผลิตและผู้ส่งออกในประเทศ หากสหภาพยุโรป (EU) ยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าต่อกัมพูชาจริง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังสหภาพยุโรปได้เริ่มกระบวนการพิจารณายกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าต่อกัมพูชา เนื่องจากไม่พอใจกับประวัติด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิของแรงงาน และการดำเนินการด้านประชาธิปไตย โดยกระบวนการดังกล่าวจะใช้เวลา 18 เดือน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือนส.ค. 2563
ที่ผ่านมา กัมพูชาได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า "Everything but Arms" (EBA) จาก EU ซึ่งหมายความว่า กัมพูชาสามารถส่งออกสินค้าไปยัง EU ได้ทุกรายการโดยไม่ถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้า ยกเว้นอาวุธ
สำหรับมาตรการช่วยเหลือที่ว่านี้ ทางกระทรวงได้มีคำสั่งยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมบริหารจัดการการส่งออก (EMF) ซึ่งหมายความว่า ผู้ส่งออกของกัมพูชาจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (CO) นอกจากนี้ ยังไม่จำเป็นต้องขอทำใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า หากหน่วยงานในประเทศปลายทางไม่ได้บังคับไว้
สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กในวันนี้ว่า วันนี้กัมพูชายืนหยัดได้ด้วยตนเอง และจะเดินหน้าต่อไปด้วยความหวังและความเชื่อมั่น
เมื่อเดือนที่ผ่านมา สมเด็จฮุนเซน เปิดเผยว่า กัมพูชาจะยังอยู่รอดต่อไป แม้สหภาพยุโรปถอดสิทธิพิเศษทางการค้าจริง
ทั้งนี้ เพื่อรองรับการนำเข้าและส่งออก สมเด็จฮุนเซนได้ตัดสินใจคงไว้เพียง 2 สถาบันในจุดผ่านแดนทั้งหมด ได้แก่ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นอกจากนี้ ทางการกัมพูชายังเตรียมลดค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบสินค้าด้วยการใช้เครื่องสแกน และลดค่าธรรมเนียมในการประทับเอกสารศุลกากร