คณะทำงานของสหประชาชาติพบหลักฐานที่เผยให้เห็นว่า เกาหลีเหนือยังคงดำเนินโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ โดยใช้สนามบินและสถานที่ทางพลเรือนอื่นๆ เพื่อพัฒนาและทดสอบจรวดป้องกันประเทศ
รายงานประจำปีโดยคณะทำงานของ UN ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของเกาหลีเหนือ ระบุว่า "คณะทำงานพบว่า เกาหลีเหนือกำลังใช้สถานที่ทางพลเรือน ซึ่งรวมถึงสนามบิน เพื่อประกอบและทดสอบขีปนาวุธ โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการโจมตี "เด็ดหัว" โดยสถานที่เหล่านั้นตั้งอยู่ใกล้กับทางรถไฟและโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ เพื่อสะดวกในการขนส่ง การประกอบ และการทดสอบระบบอาวุธต่างๆ ที่ถูกแบน เช่น ขีปนาวุธข้ามทวีป ฮวาซอง-15
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เอกสารของคณะทำงานซึ่งยังไม่มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ สรุปว่า โครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือยังคงดำเนินอยู่ตามปกติ แม้ถูกประชาคมโลกกดดัน ซึ่งรวมถึงการที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีมติคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่น การห้ามประเทศสมาชิกส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมให้แก่เกาหลีเหนือ รวมไปถึงถ่านหิน
รายงานฉบับดังกล่าว ซึ่งจัดเตรียมโดยคณะผู้เชี่ยวชาญ 8 คน ยังพบด้วยว่า ท่าเรือและสนามบินถูกใช้เพื่อฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตร เช่น นำเข้าน้ำมันผิดกฎหมาย ส่งออกถ่านหิน และการลักลอบขนเงินสดเข้าประเทศโดยชาวเกาหลีเหนือ
คณะทำงานประกอบด้วยสมาชิกจาก 5 ประเทศสมาชิกถาวรของ UNSC ได้แก่ อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐ บวกกับผู้แทนจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และแอฟริกาใต้ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในหลายสาขา ตั้งแต่การแพร่กระจายนิวเคลียร์ ไปจนถึงการควบคุมการค้า
รายงานยังได้ระบุถึงกรณีที่เกาหลีใต้ไม่แจ้งให้ทางคณะกรรมาธิการทราบเกี่ยวกับการขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมไปยังพื้นที่ชายแดนเกาหลีเหนือเพื่อนำไปใช้ที่สำนักประสานงานร่วมในแกซอง ที่จัดตั้งขึ้นในเดือนก.ย.
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รายงานฉบับนี้มีกำหนดที่จะเผยแพร่ในเดือนหน้า หากไม่มีการคัดค้าน เนื่องจากการออกรายงานจะต้องได้รับความเห็นชอบด้วยมติที่เป็นเอกฉันท์